การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ โดยใช้การจัดการเรียนรู้อิงสะเต็มศึกษา ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อหาคุณภาพชุดกิจกรรมการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ โดยใช้การจัดการเรียนรู้อิงสะเต็มศึกษา ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อศึกษาค่าดัชนีประสิทธิผล ของชุดกิจกรรมการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ โดยใช้การจัดการเรียนรู้อิงสะเต็มศึกษา ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 3). เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโครงงานวิทยาศาสตร์ ก่อนเรียนและหลังเรียน ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ โดยใช้การจัดการเรียนรู้อิงสะเต็มศึกษา ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียน ที่มีต่อการการเรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรมโครงงานวิทยาศาสตร์ โดยใช้การจัดการเรียนรู้อิงสะเต็มศึกษา ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มตัวอย่าง เป็นนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/1 โรงเรียนปรางค์กู่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 28 จำนวน 41 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) ใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยการสุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วย แผนการจัดการเรียนรู้จำนวน 14 แผน ชุดกิจกรรมการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ จำนวน 6 ชุด แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโครงงานวิทยาศาสตร และแบบสอบถามความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ , S.D. ร้อยละ ค่าดัชนีประสิทธิผล (Effectiveness Index : E.I.) และ t-test (Dependent Sample) การดำเนินการศึกษา เก็บรวบรวมข้อมูลครั้งนี้ เป็นการศึกษาเชิงทดลอง รูปแบบการศึกษาใช้การทดสอบก่อนและหลังการเรียน จากการศึกษา สรุปผลได้ดังนี้
1. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ โดยใช้การจัดการเรียนรู้อิงสะเต็มศึกษา
ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่สร้างขึ้นมีประสิทธิภาพดังนี้ ชุดที่ 1 มีประสิทธิภาพ 85.26/84.41 ชุดที่ 2 มีประสิทธิภาพ 85.17/83.9 ชุดที่ 3 มีประสิทธิภาพ 84.48/88.04 ชุดที่ 4 มีประสิทธิภาพ 84.73/85.85 ชุดที่ 5 มีประสิทธิภาพ 84.68/83.90 และ ชุดที่ 6 มีประสิทธิภาพ 86.85/87.56 แสดงว่าชุดกิจกรรมการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ ที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้น มีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้
2. ค่าดัชนีประสิทธิผล ของชุดกิจกรรมการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ โดยใช้การ
จัดการเรียนรู้อิงสะเต็มศึกษา ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 พบว่า ชุดที่ 1 โครงงานผสาน
สะเต็มศึกษา มีค่าเท่ากับ 0.632 ชุดที่ 2 ยุทธการหาหัวข้อทำโครงงานวิทยาศาสตร์ มีค่าเท่ากับ 0.637 ชุดที่ 3 วางแผนออกแบบเพื่อศึกษา มีค่าเท่ากับ 0.775 ชุดที่ 4 ลงมือปฏิบัติ มีค่าเท่ากับ 0.657 ชุดที่ 5 รายงานคือหลักฐานการทำโครงงาน มีค่าเท่ากับ 0.656 ชุดที่ 6 การจัดนิทรรศการเผยแพร่ผลงาน มีค่าเท่ากับ 0.730 โดยสรุปทุกชุดมีค่าดัชนีประสิทธิผล สูงกว่าเกณฑ์ .50 ที่ตั้งไว้
3. ผลการเปรียบเทียบค่าคะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโครงงานวิทยาศาสตร์
ก่อนเรียนและหลังเรียน ที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ โดยใช้การ
จัดการเรียนรู้อิงสะเต็มศึกษา ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 พบว่าแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีความพึงพอใจต่อการเรียนรู้ ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้
โครงงานวิทยาศาสตร์ โดยการจัดการเรียนรู้อิงสะเต็มศึกษา โดยส่วนรวมอยู่ในระดับพึงพอใจมากที่สุด (x- =4.59,S.D.=0.21) ส่วนข้อ 1-4 อยู่ในระดับที่พึงพอใจมาก และโดยรวมด้านเนื้อหาอยู่ในระดับพึงพอใจมาก ( x-= 4.32, S.D.=0.19)