ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง ลำดับอนุกรม โดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้ นักเรียนชั้นมัธยมศ

การรายงานครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ลำดับและอนุกรม รายวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้ รายวิชา คณิตศาสตร์พื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ตั้งแต่ 0.50 ขึ้นไป 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง ลำดับและอนุกรม รายวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ก่อนและหลังเรียนด้วยการจัดกิจกรรมเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้ และ 4) เพื่อศึกษาคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้ กลุ่มตัวอย่างในการศึกษาเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/4 โรงเรียนนครขอนแก่น ที่เรียนในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 41 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยใช้รูปแบบการศึกษาแบบกลุ่มเดียวสอบก่อนและสอบหลัง (One group pretest posttest design) เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ประกอบด้วย 1) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ลำดับและอนุกรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 5 เวลา 15 ชั่วโมง 2) แผนการจัดการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม จำนวน 15 แผน เวลา 15 ชั่วโมง 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน รายวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 และ 4) แบบสอบถามความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้ การวิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติพื้นฐาน ได้แก่ ค่าประสิทธิภาพของกระบวนการ E1 ค่าประสิทธิ์ภาพผลลัพธ์ E2 ค่าดัชนีประสิทธิผลการเรียนรู้ (E.I.) ค่าเฉลี่ย ( ) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน S.D ค่าร้อยละ และสถิติทดสอบ t – test

ผลการศึกษาพบว่า

1. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่อง ลำดับและอนุกรม วิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 84.70/82.52 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้

2. ดัชนีประสิทธิผลการเรียนรู้ เรื่อง ลำดับและอนุกรม วิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/4 ที่เรียนโดยใช้การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้ มีค่าดัชนีประสิทธิผล เท่ากับ 0.7339 ซึ่งแสดงว่านักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้น 0.7339 หรือคิดเป็นร้อยละ 73.39

3. ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียนและหลังเรียน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี 5/4พบว่า คะแนนก่อนเรียนและหลังเรียนแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

4. ผลการศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อการจัดกิจกรรม

การเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม พบว่า นักเรียนมีความคิดเห็นต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม

อยู่ใน ระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.53

โพสต์โดย moolan : [4 ก.ค. 2561 เวลา 12:43 น.]
อ่าน [5120] ไอพี : 223.24.60.55
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 12,215 ครั้ง
ช่วยลูกทำการบ้านอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ
ช่วยลูกทำการบ้านอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ

เปิดอ่าน 6,068 ครั้ง
รายชื่อ 31 จังหวัด เตรียมนำร่องถอดหน้ากากอนามัย ที่ไหนบ้างเช็กเลย !
รายชื่อ 31 จังหวัด เตรียมนำร่องถอดหน้ากากอนามัย ที่ไหนบ้างเช็กเลย !

เปิดอ่าน 10,163 ครั้ง
แนะพ่อแม่ติดโปรแกรมไอซีทีเฮาส์คีปเปอร์
แนะพ่อแม่ติดโปรแกรมไอซีทีเฮาส์คีปเปอร์

เปิดอ่าน 778 ครั้ง
รวม 3 ยี่ห้อนมโปรตีนสูง อร่อยทานง่าย ดีต่อสุขภาพ 2024
รวม 3 ยี่ห้อนมโปรตีนสูง อร่อยทานง่าย ดีต่อสุขภาพ 2024

เปิดอ่าน 20,400 ครั้ง
เหรียญปราบฮ่อ
เหรียญปราบฮ่อ

เปิดอ่าน 16,302 ครั้ง
4 ความผิดพลาดทางการเงิน ที่นักศึกษาพึงระวัง!!
4 ความผิดพลาดทางการเงิน ที่นักศึกษาพึงระวัง!!

เปิดอ่าน 17,249 ครั้ง
กำแพงกั้นเสียง
กำแพงกั้นเสียง

เปิดอ่าน 9,307 ครั้ง
ปลุกพลังเยียวยาตัวเอง ด้วยเคล็ดลับจากแดนอาทิตย์อุทัย
ปลุกพลังเยียวยาตัวเอง ด้วยเคล็ดลับจากแดนอาทิตย์อุทัย

เปิดอ่าน 6,255 ครั้ง
ตั๋วเครื่องบินไประนอง ดูโปรดี ๆ พร้อมเที่ยวบินราคาถูก
ตั๋วเครื่องบินไประนอง ดูโปรดี ๆ พร้อมเที่ยวบินราคาถูก

เปิดอ่าน 8,436 ครั้ง
"รื้อโรงเรียน" ข้อถกเถียงเชิงนโยบายกับเหตุผลทางภูมิศาสตร์ (ชมคลิป)
"รื้อโรงเรียน" ข้อถกเถียงเชิงนโยบายกับเหตุผลทางภูมิศาสตร์ (ชมคลิป)

เปิดอ่าน 15,276 ครั้ง
ล้างพิษตับ...ทำเพื่ออะไร?
ล้างพิษตับ...ทำเพื่ออะไร?

เปิดอ่าน 73,557 ครั้ง
เฉลยที่มาคำถาม ... "อยากให้พรุ่งนี้เป็นเมื่อวาน .. วันนี้จะได้เป็นวันศุกร์"
เฉลยที่มาคำถาม ... "อยากให้พรุ่งนี้เป็นเมื่อวาน .. วันนี้จะได้เป็นวันศุกร์"

เปิดอ่าน 6,742 ครั้ง
การประเมินจากภายนอกสถานศึกษาจำเป็นหรือไม่?
การประเมินจากภายนอกสถานศึกษาจำเป็นหรือไม่?

เปิดอ่าน 12,862 ครั้ง
พ่อกับลูกชาย คลิปซึ้งกินใจ ไว้เตือนใจตนครับ
พ่อกับลูกชาย คลิปซึ้งกินใจ ไว้เตือนใจตนครับ

เปิดอ่าน 11,408 ครั้ง
น้องซีที หุ่นยนต์ เสิร์ฟอาหาร สัญชาติไทย
น้องซีที หุ่นยนต์ เสิร์ฟอาหาร สัญชาติไทย

เปิดอ่าน 10,878 ครั้ง
วิวาห์ใต้สมุทรตรัง 2010
วิวาห์ใต้สมุทรตรัง 2010
เปิดอ่าน 12,282 ครั้ง
ผลสำรวจชี้มนุษย์ทำงาน 63% เห็นว่าการทำงาน 8 ชั่วโมงต่อวันเป็นเรื่อง "ล้าสมัย"
ผลสำรวจชี้มนุษย์ทำงาน 63% เห็นว่าการทำงาน 8 ชั่วโมงต่อวันเป็นเรื่อง "ล้าสมัย"
เปิดอ่าน 31,288 ครั้ง
6 ปัญหาที่เด็กม.ปลายต้องเจอและผ่านไปให้ได้
6 ปัญหาที่เด็กม.ปลายต้องเจอและผ่านไปให้ได้
เปิดอ่าน 21,591 ครั้ง
การวัดความเร็วและทิศทางของลม
การวัดความเร็วและทิศทางของลม
เปิดอ่าน 15,109 ครั้ง
"SEGWAY" นวตกรรมแห่งโลกอนาคต
"SEGWAY" นวตกรรมแห่งโลกอนาคต

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ