ชื่อเรื่อง รายงานการพัฒนาแบบฝึกทักษะกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ลูกเสือ-เนตรนารี)
หลักสูตรเครื่องหมายลูกเสือโลก ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
ผู้ศึกษาค้นคว้า นายชูรัตน์ จันทร์สุพัฒน์
ชื่อสถาบันที่สังกัด โรงเรียนชัยมงคลพิทยา
ปีที่จัดทำ 2560
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะแบบฝึกทักษะกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ลูกเสือ-เนตรนารี) หลักสูตรเครื่องหมายลูกเสือโลก ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ให้มีประสิทธิภาพเพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะแบบฝึกทักษะกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ลูกเสือ-เนตรนารี) หลักสูตรเครื่องหมายลูกเสือโลก ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และเพื่อสำรวจความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะแบบฝึกทักษะกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ลูกเสือ-เนตรนารี) หลักสูตรเครื่องหมายลูกเสือโลก ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการทดลอง เป็นนักเรียนโรงเรียนชัยมงคลพิทยา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ จำนวน 41 คน โดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Selection) เป็นกลุ่มทดลอง 1 กลุ่ม เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่แบบฝึกทักษะแบบฝึกทักษะกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ลูกเสือ-เนตรนารี) หลักสูตรเครื่องหมายลูกเสือโลก ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเป็นแบบปรนัย ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ( ) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) การหาค่า E1 / E2 และการทดสอบค่า t test แบบ Dependent
ผลการศึกษาพบว่า จากการศึกษาเกี่ยวกับการพัฒนาแบบฝึกทักษะแบบฝึกทักษะกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ลูกเสือ-เนตรนารี) หลักสูตรเครื่องหมายลูกเสือโลก ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ จากการศึกษาสรุปได้ดังนี้
1. แบบฝึกทักษะแบบฝึกทักษะกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ลูกเสือ-เนตรนารี) หลักสูตรเครื่องหมายลูกเสือโลก ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ มีประสิทธิภาพ 85.83/84.14 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 80/80
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนการสอนด้วยแบบฝึกทักษะแบบฝึกทักษะกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ลูกเสือ-เนตรนารี) หลักสูตรเครื่องหมายลูกเสือโลก ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ทำให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนสูงขึ้น อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้
3. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อแบบฝึกทักษะแบบฝึกทักษะกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ลูกเสือ-เนตรนารี) หลักสูตรเครื่องหมายลูกเสือโลก ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 อยู่ในระดับมาก โดยเฉลี่ย ( ) เท่ากับ 4.08 และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ 0.56