การพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเขาย้อยวิทยา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 10 มีวัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ของผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 เพื่อเปรียบเทียบ
ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่องการอ่านจับใจความสำคัญ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยของผู้เรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ก่อนเรียนและหลังเรียน และเพื่อศึกษาความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ของผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาในครั้งนี้ ได้แก่ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ ผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/2 ภาคเรียนที่ 1 ในปีการศึกษา 2560 โรงเรียนเขาย้อยวิทยา อำเภอเขาย้อย จังหวัด
เพชรบุรี จำนวน 1 ห้องเรียน ผู้เรียน 31 คน ผู้วิจัยได้ดำเนินการศึกษากับกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด ตัวแปรที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้า ตัวแปรต้น ได้แก่ การจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ตัวแปรตาม ได้แก่ ประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะ
การอ่านจับใจความสำคัญ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย และความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
ระยะเวลาที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ดำเนินการในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ กลุ่มสาระ
การเรียนรู้ภาษาไทย ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบสอบถามความพึงพอใจนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเขาย้อยวิทยา สำนักงานเขตพื้นที่
การศึกษามัธยมศึกษา เขต 10 ที่มีต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
การวิจัยสรุปผลได้ดังต่อไปนี้
1. แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย มัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้น มีประสิทธิภาพเท่ากับ 87.96/86.45 เป็นไปตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้และมีความสอดคล้องกับสมมติฐานในข้อที่ 1
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย มัธยมศึกษาปีที่ 3 สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
(t =1.70 ,P < .05) เป็นไปตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้ และมีความสอดคล้องกับสมมติฐานในข้อที่ 2
3. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย มัธยมศึกษาปีที่ 3 อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.64, SD. = 1.61) ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ และมีความสอดคล้องกับสมมติฐานในข้อที่ 3