ชื่อเรื่อง รายงานการพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ ชุด การบวก ลบ คูณ
หารระคน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
ผู้ศึกษาค้นคว้า นายพิศาล ลาภยิ่งยง
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ
หน่วยงาน โรงเรียนพิกุลทอง
สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 7
ปีที่พิมพ์ 2561
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้นี้ มีความมุ่งหมายของการศึกษา ดังนี้ 1) เพื่อพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ ชุด การบวก ลบ คูณ หารระคน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 2) เพื่อหาดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ ชุด การบวก ลบ คูณ หารระคน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มสาระคณิตศาสตร์ เรื่อง การบวก ลบ คูณ หารระคน ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อ การจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ ชุด การบวก ลบ คูณ หารระคน กลุ่มเป้าหมาย ที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/2 โรงเรียนพิกุลทอง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 7 ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 1 ห้องเรียน จำนวน 30 คน ได้มาโดยวิธีการเลือกแบบจำเพาะเจาะจง (purposive sampling) เครื่องมือที่ใช้ในกาทดลอง ประกอบด้วย 1) แบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ ชุด การบวก ลบ คูณ หารระคน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 8 เล่ม 2) แผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ที่ 13 เรื่อง การบวก ลบ คูณ หารระคน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 16 แผน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ 1) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เรื่อง การบวก ลบ คูณ หารระคน เป็นแบบทดสอบแบบปรนัย ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ มีค่าความยากง่าย (P) ระหว่าง 0.38-0.86 ค่าอำนาจจำแนก (B) ระหว่าง 0.20-0.67 มีค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบ ทั้งฉบับ เท่ากับ 0.96 2) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ ชุด การบวก ลบ คูณ หารระคน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 10 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ค่าประสิทธิภาพของสื่อ (E1/E2) ค่าดัชนีประสิทธิผลของกระบวนการ (E.I) เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน โดยใช้ t-test (Dependent Samples) ผลการศึกษาพบว่า
1. ประสิทธิภาพของแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ ชุด การบวก ลบ คูณ หารระคน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่ผู้ศึกษาพัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพ เท่ากับ 86.75/83.89 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 75/75 ที่ตั้งไว้
2. ดัชนีประสิทธิผลของการจัดการเรียนรู้ โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ ชุด การบวก ลบ คูณ หารระคน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีค่าเท่ากับ 0.5085 แสดงว่าแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ ชุด การบวก ลบ คูณ หารระคน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่ 4 ก่อให้เกิดประสิทธิผลในการเรียนรู้ของนักเรียนเพิ่มขึ้นร้อยละ 50.85
3. การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน พบว่า คะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ ชุด การบวก ลบ คูณ หารระคน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีความพึงพอใจระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.81
โดยสรุป รายงานการพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ ชุด การบวก ลบ คูณ หารระคน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล สามารถนำไปใช้ในการจัดการเรียนรู้ ทำให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น และสามารถใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาการจัดการเรียนรู้ในเนื้อหาอื่นๆ ของกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ และในกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นๆ