ชื่อเรื่อง การศึกษาผลการจัดการเรียนรู้ด้วยชุดฝึกทักษะการคิดคำนวณฟิสิกส์ที่มีต่อ
ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ความสามารถในการคิดวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ และความพึงพอใจในการเรียนวิชาฟิสิกส์ เรื่องการเคลื่อนที่ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
ผู้ศึกษา นายสุรศักดิ์ ศรีผดุง
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะครูชำนาญการ โรงเรียนเหลืองพนาวิทยาคม จังหวัดบุรีรัมย์
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 32
ปี พ.ศ. 2561
บทคัดย่อ
การศึกษาเรื่อง การศึกษาผลการจัดการเรียนรู้ด้วยชุดฝึกทักษะการคิดคำนวณฟิสิกส์ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ความสามารถในการคิดวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ และความพึงพอใจในการเรียนวิชาฟิสิกส์ เรื่องการเคลื่อนที่ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อสร้างชุดฝึกทักษะการคิดคำนวณ รายวิชาฟิสิกส์พื้นฐาน (ว31101) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 เรื่องการเคลื่อนที่ และพัฒนาให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดฝึกทักษะการคิดคำนวณ 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน โดยใช้ชุดฝึกทักษะการคิดคำนวณ 4) เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการคิดวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ก่อนเรียนและหลังเรียน โดยใช้ชุดฝึกทักษะการคิดคำนวณ 5) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนต่อการเรียนรู้โดยใช้ชุดฝึกทักษะการคิดคำนวณ โดยใช้กลุมตัวอยาง ไดแก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที่ 4/1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนเหลืองพนาวิทยาคม จังหวัดบุรีรัมย์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 32 จำนวน 26 คน ที่ได้จากการสุ่มอย่างง่าย (Sample Random Sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยในการสุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาได้แก่ 1) ชุดฝึกทักษะการคิดคำนวณ รายวิชาฟิสิกส์พื้นฐาน (ว31101) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 เรื่องการเคลื่อนที่ ซึ่งเป็นนวัตกรรมทางการเรียนการสอนที่ใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในรายวิชาฟิสิกส์พื้นฐาน เรื่องการเคลื่อนที่ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 7 ชุด 2) แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 7 แผน 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เป็นแบบทดสอบปรนัยเลือกตอบ 4 ตัวเลือกจำนวน 30 ข้อ 4) แบบทดสอบวัดความสามารถในการคิดวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ เป็นแบบปรนัยเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ 5) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียน ซึ่งเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า(Rating Scale) แบบสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลคือค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน การหาประสิทธิภาพ E1/E2 และการทดสอบค่าที
ผลการศึกษาพบว่า (1) ชุดฝึกทักษะการคิดคำนวณฟิสิกส์ที่สร้างขึ้นมีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ที่กำหนดคือ 85.44 / 83.46 (2) ดัชนีประสิทธิผลของการจัดการเรียนรู้ โดยใช้ชุดฝึกทักษะการคิดคำนวณฟิสิกส์ มีค่าเท่ากับ 0.7778 แสดงว่านักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้น 0.7778 หรือคิดเป็นร้อยละ 77.78 (3) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนเรียน ( = 24.26) โดยใช้ชุดฝึกทักษะการคิดคำนวณฟิสิกส์มีค่าสูงกว่าก่อนเรียน ( = 13.12) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ ระดับ .01 (4) ความสามารถในการคิดวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียนหลังเรียน( = 27.21) โดยใช้ชุดฝึกทักษะการคิดคำนวณฟิสิกส์มีค่าสูงกว่าก่อนเรียน( = 17.21) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 (5) ความพึงพอใจของนักเรียนต่อการเรียนรู้โดยใช้ชุดฝึกทักษะการคิดคำนวณฟิสิกส์ อยู่ในระดับพึงพอใจมากที่สุด ( = 4.60) เมื่อพิจารณารายด้านพบว่ามีระดับพึงพอใจมากที่สุดทุกด้าน โดยด้านที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดคือการวัดและประเมินผล( = 4.65) และด้านที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือสาระการเรียนรู้( = 4.51) เมื่อพิจารณาแต่ละข้อย่อยพบว่าข้อ 2.1 สอดคล้องกับเนื้อหาสาระการเรียนรู้ มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด ( = 4.81) และข้อ 3.1 เสนอเนื้อหาได้ชัดเจน เหมาะสมกับเวลาเรียน มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด ( = 4.42)
สรุปได้ว่าการจัดการเรียนรู้ด้วยชุดฝึกทักษะการคิดคำนวณฟิสิกส์สามารถพัฒนา
ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ความสามารถในการคิดวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียนให้ดีขึ้นได้ และนักเรียนเกิดความพึงพอใจในการเรียนรู้ ทั้งนี้เนื่องจากกิจกรรมการฝึกสอดคล้องกับกฎการเรียนรู้ของธอร์นไดค์ ซึ่งกล่าวถึงกฎแห่งการฝึกหัด การฝึกหัดบ่อย ๆ จะทำให้ผู้ฝึกมีความสามารถในเรื่องที่ฝึกได้ดีขึ้น เหมาะสมในการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ให้ผู้เรียนปฏิบัติกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยตนเอง จึงเป็นแนวทางสำหรับครูในการจัดการเรียนการสอนโดยใช้ชุดฝึกได้เป็นอย่างดี และมีข้อเสนอแนะว่าควรมีการศึกษาเปรียบเทียบเกี่ยวกับนักเรียนที่เรียนรู้โดยและไม่ได้ใช้ชุดฝึกทักษะการคิดคำนวณ ควรมีการพัฒนาชุดฝึกการคิด ประเภทอื่น ๆ เช่น การคิดสร้างสรรค์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ หรือการคิดแก้ปัญหา และควรมีการพัฒนาชุดฝึกการคิดคำนวณ ในวิชาอื่นๆ เช่น คณิตศาสตร์ ภาษาไทย สังคมศึกษา เป็นต้น