|
|
การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เรื่อง สมการและการแก้สมการ ด้วยชุดฝึกทักษะทางคณิตศาสตร์ตามรูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้สิ่งช่วยจัดมโนทัศน์ล่วงหน้า มีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อพัฒนาชุดฝึกทักษะทางคณิตศาสตร์ตามรูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้สิ่งช่วยจัดมโนทัศน์ล่วงหน้า เรื่อง สมการและการแก้สมการ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 75/75 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ เรื่อง สมการและการแก้สมการ ของชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยชุดฝึกทักษะทางคณิตศาสตร์ตามรูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้สิ่งช่วยจัดมโนทัศน์ล่วงหน้า 3) เพื่อเปรียบเทียบความสนใจในการเรียนคณิตศาสตร์ เรื่อง สมการและการแก้สมการ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่ 6 ก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยชุดฝึกทักษะทางคณิตศาสตร์ตามรูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้สิ่งช่วยจัดมโนทัศน์ล่วงหน้า กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/10 โรงเรียนอนุบาลอุบลราชธานี อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี ปีการศึกษา 2559 จำนวน 30 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) ชุดฝึกทักษะทางคณิตศาสตร์ตามรูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้สิ่งช่วยจัดมโนทัศน์ล่วงหน้า เรื่อง สมการและการแก้สมการ 2) แผนการจัดการเรียนรู้ประกอบการใช้ชุดฝึกทักษะทางคณิตศาสตร์ตามรูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้สิ่งช่วยจัดมโนทัศน์ล่วงหน้า เรื่อง สมการและการแก้สมการ 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ เรื่อง สมการและการแก้สมการ จำนวน 8 ข้อ ซึ่งมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.97 4) แบบวัดความสนใจในการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.89 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (SD) และสถิติทดสอบค่า t (t-test) ผลการศึกษาพบว่า
1. ชุดฝึกทักษะทางคณิตศาสตร์ตามรูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้สิ่งช่วยจัดมโนทัศน์ล่วงหน้า เรื่อง สมการและการแก้สมการ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่สร้างขึ้นมีประสิทธิภาพ เท่ากับ 84.24/83.08 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด คือ 75/75
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ เรื่อง สมการและการแก้สมการ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ด้วยชุดฝึกทักษะทางคณิตศาสตร์ตามรูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้สิ่งช่วยจัดมโนทัศน์ล่วงหน้า ก่อนเรียนและหลังเรียนแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 กล่าวคือ นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. ความสนใจในการเรียนคณิตศาสตร์ เรื่อง สมการและการแก้สมการ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ด้วยชุดฝึกทักษะทางคณิตศาสตร์ตามรูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้สิ่งช่วยจัดมโนทัศน์ล่วงหน้า ก่อนเรียนและหลังเรียนแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 กล่าวคือ นักเรียนมีความสนใจในการเรียนคณิตศาสตร์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
ดังนั้น ชุดฝึกทักษะทางคณิตศาสตร์ตามรูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้สิ่งช่วยจัดมโนทัศน์ล่วงหน้า เรื่อง สมการและการแก้สมการ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จึงเป็นนวัตกรรมการเรียนการสอนที่มีคุณภาพ สามารถนำไปใช้ในการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาความรู้และทักษะทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ และความสนใจในการเรียนคณิตศาสตร์ เรื่อง สมการและการแก้สมการ ของนักเรียนสูงขึ้นได้จริง
|
โพสต์โดย ครูวิฑูรย์ : [2 ก.ค. 2561 เวลา 04:02 น.] อ่าน [4947] ไอพี : 122.155.35.239
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 12,241 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,707 ครั้ง
| เปิดอ่าน 2,930 ครั้ง
| เปิดอ่าน 198,790 ครั้ง
| เปิดอ่าน 23,563 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,053 ครั้ง
| เปิดอ่าน 17,053 ครั้ง
| เปิดอ่าน 212,622 ครั้ง
| เปิดอ่าน 21,651 ครั้ง
| เปิดอ่าน 25,751 ครั้ง
| เปิดอ่าน 2,864 ครั้ง
| เปิดอ่าน 22,450 ครั้ง
| เปิดอ่าน 26,430 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,307 ครั้ง
| เปิดอ่าน 9,187 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 28,782 ครั้ง
| เปิดอ่าน 18,877 ครั้ง
| เปิดอ่าน 8,446 ครั้ง
| เปิดอ่าน 1,732 ครั้ง
| เปิดอ่าน 17,432 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|