ชื่อเรื่อง รายงานผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาเคมี 3 ว30223 เรื่อง สมดุลเคมีโดยใช้
รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E)และชุดกิจกรรมการเรียนรู้ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
ชื่อผู้รายงาน นายเอนก สุดใด
ปีที่ทำรายงาน 2560
บทคัดย่อ
รายงานผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาเคมี 3 ว30223 เรื่อง สมดุลเคมี โดยใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E)และชุดกิจกรรมการเรียนรู้ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ 1) เพื่อพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาเคมี 3 ว30223 เรื่อง สมดุลเคมี โดยใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80
2) เพื่อหาค่าดัชนีประสิทธิผลของชุดกิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาเคมี 3 ว30223 เรื่อง สมดุลเคมี โดยใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 3) เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่เรียนรายวิชาเคมี 3 ว30223 เรื่อง สมดุลเคมี โดยใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E) และชุดกิจกรรมการเรียนรู้ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาเคมี 3 ว30223 เรื่อง สมดุลเคมี โดยใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E)
กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา
2560 โรงเรียนเขาสวนกวางวิทยานุกูล ตำบลคำม่วง อำเภอเขาสวนกวาง จังหวัดขอนแก่น สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 25 จำนวน 25 คน ใช้เวลาในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 6 สัปดาห์ 12 แผนการจัดการเรียนรู้ เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วย แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้(Inquiry Method : 5E)และชุดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่องสมดุลเคมี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 6 ชุด แบบทดสอบหลังเรียนของ แต่ละชุดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบประเมินความพึงพอใจ ต่อชุดกิจกรรมการเรียนรู้ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ การหาประสิทธิภาพ(E1/E2 ) การหาค่าดัชนีประสิทธิผล (E.I.) การเปรียบเทียบคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน โดยใช้ t-test แบบ Cluster Random Sampling ค่าความยากง่าย ความสอดคล้อง ค่าเฉลี่ย ร้อยละและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการศึกษาพบว่า
1. แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้(Inquiry Method : 5E) และชุดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่องสมดุลเคมี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่ผู้รายงานได้พัฒนาขึ้น มีประสิทธิภาพเท่ากับ 81.80/81.47 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่กำหนดไว้
2. ดัชนีประสิทธิผลของแผนการจัดเรียนรู้โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E) และชุดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่องสมดุลเคมี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีค่าเท่ากับ 0.6585 แสดงว่าผู้เรียนมีความก้าวหน้าในการเรียนร้อยละ 65.85
3. นักเรียนที่เรียนด้วย แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E) และชุดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่องสมดุลเคมี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีคะแนนเฉลี่ยจากการทดสอบหลังเรียนเพิ่มขึ้นจากก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่องสมดุลเคมี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โดยรวมทุกด้านอยู่ในระดับมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ย ( ) รวมทุกด้าน เท่ากับ 4.89