|
|
บทคัดย่อ
การศึกษาการพัฒนาผลสัมฤทธิ์และความคงทนในการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ โดยใช้แบบฝึกทักษะ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์พื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 เรื่อง อัตราส่วนตรีโกนมิติและการประยุกต์ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๕๓ จังหวัดสกลนคร โดยใช้แบบฝึกทักษะ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 23 มีจุดมุ่งหมายของการศึกษาค้นคว้า คือ 1) เพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์พื้นฐานชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 เรื่อง อัตราส่วนตรีโกนมิติและการประยุกต์ ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 2) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์พื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 เรื่อง อัตราส่วนตรีโกนมิติและการประยุกต์ ที่ผู้ศึกษาค้นคว้าสร้างขึ้น 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ของนักเรียนระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์พื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 เรื่อง อัตราส่วนตรีโกนมิติและการประยุกต์ 4)เพื่อศึกษาความคงทนทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่เรียนโดยแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องอัตราส่วนตรีโกนมิติและการประยุกต์ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๕๓ จังหวัดสกลนคร สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 23 ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 ได้มาโดยการเจาะจง จำนวน 19 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่องอัตราส่วนตรีโกนมิติและการประยุกต์ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์พื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่ผู้ศึกษาค้นคว้าสร้างและพัฒนาขึ้น จำนวน 11 แผน 2) แบบฝึกทักษะ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์พื้นฐาน หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง อัตราส่วนตรีโกนมิติและการประยุกต์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 10 เล่ม 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง อัตราส่วนตรีโกนมิติและการประยุกต์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่ผู้ศึกษาค้นคว้าสร้างขึ้น เป็นแบบเลือกตอบ ชนิด 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ มีค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) เท่ากับ 1.00 มีค่าความยากง่าย (P) ตั้งแต่ 0.28 - 0.67 ค่าอำนาจจำแนกรายข้อ (B) ตั้งแต่ 0.21 - 0.78 ค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.75 การวิเคราะห์ข้อมูล ใช้คอมพิวเตอร์โปรแกรมสำเร็จรูป SPSS for windows สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ t-test (Dependent Samples)
ผลการศึกษาพบว่า
1. แบบฝึกทักษะ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์พื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 เรื่อง อัตราส่วนตรีโกนมิติและการประยุกต์ มีประสิทธิภาพเท่ากับ 85.31/78.33
2. แบบฝึกทักษะ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์พื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 เรื่อง อัตราส่วนตรีโกนมิติและการประยุกต์ มีค่าดัชนีประสิทธิผล เท่ากับ 0.6976 หมายความว่า นักเรียนมีความก้าวหน้าในการเรียนร้อยละ 69.76
3. นักเรียนที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์พื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษา
ปีที่ 4 เรื่อง อัตราส่วนตรีโกนมิติและการประยุกต์ มีผลสัมฤทธิ์และความคงทนในการเรียนคณิตศาสตร์หลังเรียน สูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
4. นักเรียนที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์พื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 4 เรื่อง อัตราส่วนตรีโกนมิติและการประยุกต์ มีความคงทนในการเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
ผลจากการศึกษาครั้งนี้ เป็นเครื่องบ่งชี้ให้เห็นว่าการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์พื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 เรื่อง อัตราส่วนตรีโกนมิติและการประยุกต์ ที่ผู้ศึกษาดำเนินการสร้างขึ้นมีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผล โดยทำให้ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์สูงขึ้น และผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจคงทนในการเรียนคณิตศาสตร์ ข้อค้นพบที่ได้จากการศึกษาสามารถใช้เป็นแนวทางในการจัดทำ และพัฒนาแบบฝึกทักษะในเนื้อหาสาระอื่นๆ ในกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนให้บรรลุผลตามเป้าหมายของพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ และหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานต่อไป
|
โพสต์โดย ปภังกร : [1 ก.ค. 2561 เวลา 12:52 น.] อ่าน [5109] ไอพี : 182.232.216.174
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 79,688 ครั้ง
| เปิดอ่าน 18,557 ครั้ง
| เปิดอ่าน 32,197 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,105 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,531 ครั้ง
| เปิดอ่าน 5,010 ครั้ง
| เปิดอ่าน 27,691 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,411 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,307 ครั้ง
| เปิดอ่าน 3,706 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,834 ครั้ง
| เปิดอ่าน 16,104 ครั้ง
| เปิดอ่าน 29,156 ครั้ง
| เปิดอ่าน 9,592 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,955 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 25,289 ครั้ง
| เปิดอ่าน 49,177 ครั้ง
| เปิดอ่าน 107,863 ครั้ง
| เปิดอ่าน 8,936 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,480 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|