ผู้วิจัย นายภักดี คันธี
กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ โรงเรียนภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ สพม.30
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาบทปฏิบัติการเคมีที่เชื่อมโยงกับชีวิตประจำวัน
และบริบทท้องถิ่นให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของ
บทปฏิบัติการเคมีที่เชื่อมโยงกับชีวิตประจำวันและบริบทท้องถิ่น 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่องปัจจัยที่มีผลต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมีของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยการเรียนโดยใช้บทปฏิบัติการเคมีที่เชื่อมโยงกับชีวิตประจำวันและบริบทท้องถิ่น 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อบทปฏิบัติการเคมีที่เชื่อมโยงกับชีวิตประจำวันและบริบทท้องถิ่น
กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัยเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/4 ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนภูเขียว อำเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ จำนวน 42 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) รูปแบบการวิจัยเป็นแบบกลุ่มตัวอย่างเดียวทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน(One group pretest-posttest design) ดำเนินการวิจัยโดยใช้บทปฏิบัติการเคมี
ที่เชื่อมโยงกับชีวิตประจำวันและบริบทท้องถิ่น จำนวน 5 บทปฏิบัติการ ในการจัดกิจกรรม
การเรียนรู้ตามแผนการเรียนรู้ที่มีทั้งหมด 5 แผน ใช้เวลาทั้งหมด 15 ชั่วโมง ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลคะแนนก่อนเรียนและคะแนนหลังเรียน ด้วยแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
เรื่องปัจจัยที่มีผลต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี และสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อ
บทปฏิบัติการเคมีที่เชื่อมโยงกับชีวิตประจำวันและบริบทท้องถิ่น ด้วยแบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อบทปฏิบัติการเคมีที่เชื่อมโยงกับชีวิตประจำวันและบริบทท้องถิ่น
ผลการวิจัยพบว่าบทปฏิบัติการเคมีที่เชื่อมโยงกับชีวิตประจำวันและบริบทท้องถิ่น
มีประสิทธิภาพ 82.19/81.90 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้คือ 80/80 และมีค่าดัชนีประสิทธิพลเท่ากับ 0.7143 นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่องปัจจัยที่มีผลต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมีหลังเรียนสูง (ค่าเฉลี่ย 16.38) กว่าก่อนเรียน (ค่าเฉลี่ย 7.33) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และนักเรียน
มีความพึงพอใจต่อบทปฏิบัติการเคมีที่เชื่อมโยงกับชีวิตประจำวันและบริบทท้องถิ่นในระดับมากที่สุด