ชื่อผลงาน การพัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
โดยใช้บอร์ดเกม
ผู้วิจัย นายวรวุฒิ คุณประทุม
โรงเรียน บ้านแท่นวิทยา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 30
กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ
บทคัดย่อ
การพัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษมีความมุ่งหมายในการวิจัยเพื่อพัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้บอร์ดเกม โดยมีกลุ่มตัวอย่างคือนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/3 โรงเรียนบ้านแท่นวิทยา จำนวน 33 คน ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 5 แผน บอร์ดเกม และแบบประเมินทักษะการพูด
ผลการวิจัยปรากฏดังนี้
วงจรที่ 1 ผู้วิจัยใช้บอร์ดเกม Feeling and Emotion ให้นักเรียนทำการฝึกพูดภาษาอังกฤษผ่านกระบวนการเล่นเกมโดยใช้บอร์ดเกมเป็นเครื่องมือโดยใช้โครงสร้างทางภาษาตลอดจนสำนวนในการพูดต่าง ๆ พร้อมทั้งคำศัพท์ตามที่กำหนดให้ ซึ่งผลจากการดำเนินกิจกรรมในวงจรนี้ ผลปรากฏว่า นักเรียนส่วนมากสนใจร่วมกิจกรรมอย่างสนุกสนาน มีนักเรียนสามารถพูดได้ถูกต้องตามหลักการออกเสียง แต่ยังมีนักเรียนบางส่วนที่สามารถสนทนาได้แต่ยังออกเสียงคำศัพท์ไม่ถูกต้องตามหลักของการออกเสียง กล่าวคือออกเสียงคำศัพท์ผิดบ้าง นอกเหนือจากนี้ยังมีนักเรียนอีกจำนวนหนึ่งที่ยังออกเสียงคำศัพท์และโครงสร้างทางภาษายังไม่ชัดเจนและถ่ายทอดเป็นภาษาไทยแทนเนื่องจากกลัวว่าจะออกเสียงและพูดผิด แต่ยังมีความพยายามที่จะพูดเป็นภาษาอังกฤษโดยภาพรวมอยู่ในระดับ พอใช้ คือคิดเป็นร้อยละ 72.32
วงจรที่ 2 ผู้วิจัยได้บอร์ดเกมเรื่อง Free Time ให้นักเรียนทำการฝึกพูดภาษาอังกฤษ โดยผลจากการเล่นเกมในวงจรนี้ผลปรากฏว่า นักเรียนยังพูดภาษาอังกฤษได้ไม่คล่องแคล่วเท่าไร ทั้งนี้มีสาเหตุมาจากการที่นักเรียนมีอาการเขินอายเมื่อต้องพูดภาษาอังกฤษอีกทั้งยังกลัวว่าตนเองจะพูดผิด อีกทั้งการออกเสียงคำต่าง ๆ ยังเป็นอุปสรรคในการเรียนรู้ แต่ในขณะเดียวกัน มีนักเรียนบางส่วนสามารถพูดได้อย่างคล่องแคล่วตามหลักการออกเสียง อีกทั้งยังมีนักเรียนส่วนหนึ่งที่พยายามถ่ายทอดออกมาเป็นภาษาไทยแทนการพูดภาษาอังกฤษ แต่ยังมีความพยายามที่จะพูดหรือถ่ายทอดออกมาเป็นคำ ๆ แทน การประเมินทักษะการพูดโดยภาพรวมอยู่ในระดับ พอใช้ คือ คิดเป็นร้อยละ 75.24
วงจรที่ 3 ผู้วิจัยได้ใช้บอร์ดเกมเรื่อง At the Restaurant ให้นักเรียนได้ทำการเล่นเกมและให้
นักเรียนได้ทำการฝึกพูดตามโครงสร้างที่กำหนดให้ โดยก่อนที่จะทำการพัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษในวงจรนี้ ผู้วิจัยได้แก้ปัญหาของผู้เรียนที่ยังไม่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้จากวงจรที่ 1 และ 2 โดยการให้นักเรียนกลุ่มนี้มาฝึกพูดในช่วงพักกลางวัน ซึ่งนักเรียนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี สำหรับผลการจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะการพูดภาอังกฤษในวงจรที่ 3 ปรากฏว่า นักเรียนเกือบทุกคนสามารถพูดภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่ว พูดได้ถูกต้องตามหลักการออกเสียง การออกเสียงคำศัพท์ต่าง ๆ ก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับนักเรียนแต่ยังคงมีการออกเสียงผิดบ้างเล็กน้อย นอกเหนือจากนี้ยังคงมีนักเรียนบางส่วนที่ยังเขินอายอยู่ ซึ่งผู้วิจัยได้ทำการแก้ไขปัญหาโดยการสร้างแรงจูงใจในการพูดภาษาอังกฤษและสร้างความมั่นใจในการพูด และสิ่งหนึ่งที่สังเกตได้จากวงจรนี้คือ นักเรียนสนุกสนาน ในการพูด มีการหยอกล้อกันบ้าง ทำให้การเรียนภาษาอังกฤษของนักเรียนมีสีสันขึ้นมา ซึ่งผลการประเมินทักษะการพูดโดยภาพรวมอยู่ในระดับ ดี คือคิดเป็นร้อยละ 81.41
วงจรที่ 4 ผู้วิจัยได้ใช้บอร์ดเกม เรื่อง Shopping ให้นักเรียนได้พัฒนาทักษะการพูด โดยผลจากการ
ปฏิบัติกิจกรรมในวงจรนี้พบว่า นักเรียนมีพัฒนาทางการพูดภาษาอังกฤษขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด กล่าวคือ นักเรียนพยายามที่จะพูดออกมา ไม่อาย มีความมั่นใจ พูดได้คล่องแคล่ว แต่ยังมีนักเรียนบางส่วนที่เมื่อพูดภาษาอังกฤษมีการออกเสียงเป็นภาษาถิ่นของตนเองอยู่ แต่ในทางกลับกันคือเป็นผลดีสำหรับนักเรียนกลุ่มนี้เพราะสามารถสนทนาได้แม้ว่าจะเป็นการพูดภาษาอังกฤษเป็นภาษาถิ่นก็ตาม แต่อย่างไรก็ตามเมื่อนักเรียนต้องออกมาพูดภาษาอังกฤษหน้าชั้นเรียน นักเรียนก็ยังคงมีอาการเขินอายอยู่ จึงทำให้นักเรียนพูดติดขัดบ้าง และผู้วิจัยได้ใช้เทคนิคเพื่อนช่วยเพื่อเพื่อแก้ปัญหาการเขินอายในการพูด ซึ่งได้ผลดีและทำให้นักเรียนมีความมั่นใจขึ้น ซึ่งผลการประเมินทักษะการพูดโดยภาพรวมอยู่ในระดับ ดี คือคิดเป็นร้อยละ 86.16
วงจรที่ 5 ผู้วิจัยได้ใช้บอร์ดเกมเรื่อง Travelling พัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษของ
นักเรียน ซึ่งผลจากการพัฒนาทักษะการพูดภาอังกฤษในวงจรนี้ปรากฏว่า นักเรียนทุกคนสามารถพูดสนทนาได้อย่างคล่องแคล่ว พูดถูกต้องตามหลักของการออกเสียง มีความมั่นใจในการพูด ในขณะเดียวกันนักเรียนบางส่วนระหว่างที่ฝึกพูดมีการแสดงท่าทางประกอบ และการออกเสียงคำศัพท์นั้นไม่เป็นปัญหาสำหรับผู้เรียน แต่มีออกเสียงผิดบ้างเล็กน้อยซึ่งผู้วิจัยได้ทำการแก้ไขจนสามารถออกเสียงได้ถูกต้อง นอกเหนือจากนี้นักเรียนเกิดความสนุกสนานอย่างมากในการพูดภาษาอังกฤษ มีการพูดหยอกล้อกัน ซึ่งส่งผลให้การจัดกิจกรรมเพื่อพัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษมีสีสันเพิ่มขึ้นมา ซึ่งผลการประเมินทักษะการพูดโดยภาพรวมอยู่ในระดับ ดีมาก คือคิดเป็นร้อยละ 90.10
ผลสรุปการพัฒนาทักษะการพูดภาษาภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้บอร์ดเกม ด้วยการใช้แบบประเมินทักษะการพูดทั้ง 5 วงจร พบว่า สามารถพัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษของนักเรียนให้เพิ่มขึ้น โดยมีคะแนนเฉลี่ยเพิ่มขึ้น และพิจารณาเป็นภาพรวมอยู่ในระดับ ดี คิดเป็นร้อยละ 81.05