ชื่อเรื่อง การพัฒนาแบบฝึกทักษะ เรื่อง การเล่นกีฬาฟุตบอล กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษา
และพลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
ผู้ศึกษา นายกิตติมศักดิ์ สุขเลิศ
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ
โรงเรียน โรงเรียนม่วงสามสิบอัมพวันวิทยา อำเภอม่วงสามสิบอัมพวันวิทยา
จังหวัดอุบลราชธานี
ปีศึกษา 2559
บทคัดย่อ
กีฬาฟุตบอลเป็นกิจกรรมการออกกำลังกายอีกอย่างหนึ่ง ที่สามารถส่งเสริมพัฒนาทางด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญาของบุคคลได้เป็นอย่างดี การเล่นฟุตบอลมีจุดมุ่งหมายเพื่อความสนุกสนานเพลิดเพลิน เป็นการออกกำลังกายที่ทำให้ร่างกายมีพลานามัยสมบูรณ์ มีวินัยในตนเอง มีการประสานงานกับบุคคลอื่นและมีการควบคุมอารมณ์ของตนเองได้ดีการพัฒนาแบบฝึกทักษะ เรื่อง การเล่นกีฬาฟุตบอล กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ในครั้งนี้ มีจุดมุ่งหมายเพื่อ 1) พัฒนาแบบฝึกทักษะ เรื่อง การเล่นกีฬาฟุตบอล กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะ เรื่อง การเล่นกีฬาฟุตบอล กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ก่อนและหลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะ เรื่อง การเล่นกีฬาฟุตบอล กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 และ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะ เรื่อง การเล่นกีฬาฟุตบอล กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนม่วงสามสิบอัม พวันวิทยา จังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 41 คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ 1) แบบฝึกทักษะ เรื่อง การเล่นกีฬาฟุตบอล กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 9 เล่ม มีระดับความเหมาะสมมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.80 2) แผนการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ประกอบการใช้แบบฝึกทักษะ เรื่อง การเล่นกีฬาฟุตบอล กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 9 แผน มีระดับความเหมาะสมมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.97 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การเล่นกีฬาฟุตบอล กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 เป็นแบบทดสอบชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ มีค่าความยากตั้งแต่ 0.46 - 0.79 ค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.21 - 0.50 และ ค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบทั้งฉบับ 0.90 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะเรื่อง การเล่นกีฬาฟุตบอล กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 เป็นแบบสอบถามแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ จำนวน 18 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและ t-test (Dependent Samples)
ผลการศึกษาปรากฏดังนี้
1) ประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะ เรื่อง การเล่นกีฬาฟุตบอล กลุ่มสาระการเรียนรู้
สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 เท่ากับ 88.10/89.15 สูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้
2) ดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะ เรื่อง การเล่นกีฬาฟุตบอล กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มีค่าเท่ากับ 0.8108 แสดงว่านักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้น 0.8108 หรือคิดเป็นร้อยละ 81.08
3) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน หลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะ เรื่อง การเล่นกีฬาฟุตบอล กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4) ความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะ เรื่อง การเล่นกีฬาฟุตบอล
กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มีระดับความพึงพอใจโดยรวม อยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.57
โดยสรุป การพัฒนาแบบฝึกทักษะ เรื่อง การเล่นกีฬาฟุตบอล กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ครูผู้สอนและผู้เกี่ยวข้องสามารถนำไปใช้เป็นสื่อในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน เพื่อพัฒนาทักษะในการเล่นกีฬาฟุตบอลของนักเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตามความมุ่งหมายของหลักสูตร