ชื่อเรื่อง การรายงานการใช้และพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านและเขียนภาษาอังกฤษ
ด้วยชุดบทอ่านจากแบบทดสอบ O-NET ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
ผู้ศึกษา นางสาวรัตนา บุญหล้า ครูชำนาญการ โรงเรียนบ้านใคร่นุ่น
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนภาษาอังกฤษ ด้วยชุดบทอ่านจากแบบทดสอบ O-NET ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษา
ปีที่ 6 เพื่อ 1) เพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนภาษาอังกฤษ ด้วยชุดบทอ่านจากแบบทดสอบ O-NET ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อศึกษาค่าดัชนีประสิทธิผลของการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนภาษาอังกฤษ ด้วยชุดบทอ่านจากแบบทดสอบ O-NET ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ในการเรียนของนักเรียน
ก่อนและหลังการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนภาษาอังกฤษ ด้วยชุดบทอ่านจากแบบทดสอบ O-NET ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อ การเรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนภาษาอังกฤษ ด้วยชุดบทอ่านจากแบบทดสอบ O-NET ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 5) กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 14 คน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนบ้านใคร่นุ่น สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษามหาสารคาม เขต 1 ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้า ได้แก่ (1) แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนภาษาอังกฤษ ด้วยชุดบทอ่านจากแบบทดสอบ O-NET ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 6 เล่ม (2) แผนการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือกันเรียนรู้แบบผสมผสาน (CIRC) ที่ใช้แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนภาษาอังกฤษ ด้วยชุดบทอ่านจากแบบทดสอบ O-NET ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 18 แผน 13 ชั่วโมง (3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 1 ฉบับ เป็นแบบทดสอบแบบปรนัยชนิด 4 ตัวเลือก จำนวน 20 ข้อ และเป็นแบบทดสอบวัดทักษะการเขียน จำนวน 20 ข้อ รวมเป็น 40 ข้อ ที่มีค่าอำนาจจำแนก (B) อยู่ระหว่าง 0.20 ถึง 0.83 และค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบทั้งฉบับ เท่ากับ 0.81 (4) แบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนภาษาอังกฤษ ด้วยชุดบทอ่านจากแบบทดสอบ O-NET ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 11 ข้อ ที่มีค่าอำนาจจำแนกรายข้อตั้งแต่ .31 ถึง .56 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ .79 สถิติที่ใช้คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าดัชนีประสิทธิผล และทดสอบสมมุติฐานโดยใช้ t-test (Dependent Samples)
ผลการศึกษาค้นคว้าพบว่า
1. แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนภาษาอังกฤษ ด้วยชุดบทอ่านจากแบบทดสอบ O-NET ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่ผู้รายงานสร้างขึ้น มีประสิทธิภาพเท่ากับ 84.12/85.28
2. ค่าดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนภาษาอังกฤษ ด้วยชุดบทอ่านจากแบบทดสอบ O-NET ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เท่ากับ 0.6738 หรือคิดเป็นร้อยละ 67.38 แสดงว่า แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนภาษาอังกฤษ ด้วยชุดบทอ่านจากแบบทดสอบ O-NET ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษา
ปีที่ 6 ที่สร้างขึ้น ทำให้นักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้น 0.6738 หรือคิดเป็นร้อยละ 67.38
3. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนภาษาอังกฤษ ด้วยชุดบทอ่านจากแบบทดสอบ O-NET ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01
4. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนภาษาอังกฤษ ด้วยชุดบทอ่านจากแบบทดสอบ O-NET ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.73 อยู่ในระดับ เห็นด้วยอย่างยิ่ง
ผลการศึกษาบ่งชี้ว่า แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนภาษาอังกฤษ ด้วยชุดบทอ่านจากแบบทดสอบ O-NET ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่สร้างขึ้นสามารถพัฒนาทักษะด้านการอ่านและการเขียนของนักเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนภาษาอังกฤษ ด้วยชุดบทอ่านจากแบบทดสอบ O-NET ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สามารถนำไปใช้ได้อย่างเหมาะสมกับระดับชั้นเรียน ควรสนับสนุนให้ครูและผู้เกี่ยวข้องนำไปใช้ในการเรียนการสอนต่อไป