การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาเอกสารประกอบการเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 แรงและความดัน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ให้มีประสิทธิภาพ ตามเกณฑ์ 80/80
2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ก่อนเรียนกับหลังเรียนโดยใช้เอกสารประกอบการเรียน
หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 แรงและความดัน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านมะม่วงเอน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากระบี่ 3) เพื่อหาค่าดัชนีประสิทธิผลของเอกสารประกอบการเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 แรงและความดัน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 4) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 แรงและความดัน โดยใช้เอกสารประกอบการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนบ้านมะม่วงเอน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากระบี่ กับคะแนนเกณฑ์ร้อยละ 80 5) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนบ้านมะม่วงเอน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากระบี่ ที่มีต่อการจัดกิจกรรมด้วยเอกสารประกอบการเรียนหน่วยการเรียนรู้ที่ 3 แรงและความดัน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ กลุ่มเป้าหมายเป็นนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านมะม่วงเอน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากระบี่ ปีการศึกษา 2560 ภาคเรียนที่ 2 จำนวน 20 คน ได้มาโดยวิธีการเลือกแบบเจาะจง (purposive sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้า ประกอบด้วย เอกสารประกอบการเรียน แผนการจัดการเรียนรู้ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เป็นข้อสอบแบบปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ แบบทดสอบย่อยเพื่อใช้ในการสอบก่อนเรียนและหลังเรียนของเอกสารประกอบ
การเรียนแต่ละเล่ม มีจำนวน 9 เล่ม เล่มละ10 ข้อ เป็นแบบปรนัย 4 ตัวเลือก และแบบสอบถามความพึงพอใจ
ผลการศึกษาค้นคว้าพบว่า
1. เอกสารประกอบการเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 แรงและความดัน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีประสิทธิภาพ เท่ากับ 84.61/84.50 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่กำหนดไว้
2. นักเรียนที่เรียนโดยใช้เอกสารประกอบการเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 แรงและความดัน กลุ่มสาระ
การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากระบี่ มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. ค่าดัชนีประสิทธิผลของเอกสารประกอบการเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 แรงและความดัน
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีค่าเท่ากับ 0.68 ซึ่งหมายถึง นักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้นร้อยละ 68 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ดัชนีประสิทธิผล คือ 0.50
4. หลังการจัดกิจกรรมการเรียนรู้หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 แรงและความดันโดยใช้เอกสารประกอบ
การเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนบ้านมะม่วงเอน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากระบี่ ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เท่ากับ 84.50 ซึ่งสูงเกณฑ์ที่ตั้งไว้ร้อยละ 80 คิดเป็นร้อยละ 4.50
5. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนบ้านมะม่วงเอน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากระบี่ มีความพึงพอใจต่อเอกสารประกอบการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณารายด้านโดยเรียงลำดับความพึงพอใจจากมากไปหาน้อย ได้แก่ ด้านสื่อการเรียน มีความพึงใจมากที่สุด โดยรองลงมาคือด้านสาระการเรียนรู้และด้านการจัดการเรียนรู้
ด้านการวัดผลและประเมินผลมีความพึงพอใจน้อยที่สุดตามลำดับ