ชื่อเรื่อง ผลการพัฒนาพฤติกรรมทางสังคมด้านความร่วมมือ โดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์
ร่วมด้วยช่วยกัน ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2
ชื่อผู้ศึกษา นางสาวสุพรรณิกา จั่นเพชร
ปีที่ศึกษา 2560
บทคัดย่อ
การศึกษาค้นคว้าครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลการพัฒนาพฤติกรรมทางสังคมด้าน
ความร่วมมือระหว่างการจัดกิจกรรมสร้างสรรค์ร่วมด้วยช่วยกัน ทั้งรายพฤติกรรมและภาพรวมและเพื่อศึกษาผลของการเปรียบเทียบผลของการพัฒนาพฤติกรรมทางสังคมด้านความร่วมมือ ก่อนและหลังการจัดกิจกรรมสร้างสรรค์ร่วมด้วยช่วยกันทั้งรายพฤติกรรมและภาพรวมของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 โรงเรียนบ้านทุ่งหลุก สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 3 ประชากรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 โรงเรียนบ้านทุ่งหลุก สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 3 ซึ่งกำลังศึกษาอยู่ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 19 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ 1. คู่มือการจัดกิจกรรมสร้างสรรค์ร่วมด้วยช่วยกันจำนวน 27 กิจกรรม 2. แผนการจัดกิจกรรมสร้างสรรค์ร่วมด้วยช่วยกันจำนวน 27 แผน 3. แบบสังเกตพฤติกรรมทางสังคมด้านความร่วมมือ 4 ด้านซึ่งมีวิธีการดำเนินการศึกษา ดังนี้ ทำการสังเกตพฤติกรรมที่ศึกษา ได้แก่ พฤติกรรมด้านการทำงานร่วมกับเพื่อน, ด้านการรับผิดชอบมุ่งมั่นทำงาน, ด้านการยอมรับความสามารถของผู้อื่นและด้านการปฏิบัติตามกติกา/ข้อตกลง ได้ระหว่างการจัดกิจกรรม
กิจกรรมสร้างสรรค์ร่วมด้วยช่วยกัน แล้วประมวลข้อมูลเป็น 9 ช่วงสัปดาห์ และสังเกตพฤติกรรมความพร้อมทางสังคมของเด็กปฐมวัย ก่อนและหลังการจัดกิจกรรมสร้างสรรค์ร่วมด้วยช่วยกัน ด้วยแบบสังเกตพฤติกรรมทางสังคมด้านความร่วมมือ สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าเฉลี่ย (µ) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (σ) และค่าร้อยละ
สรุปผลการศึกษา
จากการดำเนินการศึกษาพัฒนาพฤติกรรมทางสังคมด้านความร่วมมือโดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ร่วมด้วยช่วยกัน ชั้นอนุบาลปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 ใช้เวลาในการทดลอง เริ่มตั้งแต่วันที่ 13 เดือน พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 ถึงวันที่ 10 เดือมกราคม พ.ศ. 2561 สามารถสรุปผลการศึกษาได้ดังนี้
1. ผลการพัฒนาพฤติกรรมทางสังคมด้านความร่วมมือของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 ทั้งรายพฤติกรรมและภาพรวมที่ได้รับการจัดกิจกรรมสร้างสรรค์ร่วมด้วยช่วยกัน ระหว่างการจัดกิจกรรมมีพัฒนาการดีขึ้นทุกๆ สัปดาห์ 9 สัปดาห์ ในสัปดาห์แรกนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 ทุกคน มีการจัดกิจกรรมสร้างสรรค์ร่วมด้วยช่วยกันและประเมินพัฒนาการ ผลการประเมินอยู่ในระดับต้องปรับปรุง (1.46, 1.54, 1.44, 1.49 และ 1.48) ตามลำดับ ตั้งแต่สัปดาห์ที่ 2 มีการจัดกิจกรรมต่อไปอีก ผลการประเมินพัฒนาการดีขึ้นเรื่อยๆ ทุกสัปดาห์ จนถึงสัปดาห์สุดท้ายคือในสัปดาห์ที่ 9 มีการพัฒนาอยู่ในระดับดี ทุกพฤติกรรม ได้แก่ พฤติกรรมด้านการทำงานร่วมกับเพื่อน, ด้านการรับผิดชอบมุ่งมั่นทำงาน, ด้านการยอมรับความสามารถของผู้อื่นและด้านการปฏิบัติตามกติกา/ข้อตกลง และพฤติกรรมโดยรวม (2.89, 2.96, 2.88, 2.91 และ 2.911 ตามลำดับ)
2. ผลการเปรียบเทียบพัฒนาการพฤติกรรมทางสังคมด้านความร่วมมือของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 ก่อนและหลังการจัดกิจกรรมสร้างสรรค์ร่วมด้วยช่วยกัน โดยหลังการจัดกิจกรรม มีพัฒนาการแตกต่างจากก่อนการจัดกิจกรรมทั้ง 4 พฤติกรรมและภาพรวม โดยหลังการจัดกิจกรรม พฤติกรรมด้านการทำงานร่วมกับเพื่อน ด้านการรับผิดชอบมุ่งมั่นทำงาน, ด้านการยอมรับความสามารถของผู้อื่นและด้านการปฏิบัติตามกติกา/ข้อตกลงและภาพรวมทั้ง 4 ด้านของพฤติกรรมทางสังคมหลังจากเล่นเสร็จและภาพรวม (2.83, 2.72, 2.94, 2.83 และ 2.83 ตามลำดับ) สูงกว่าก่อนการจัดประสบการณ์ โดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ร่วมด้วยช่วยกัน (1.70, 2.05, 1.94, 1.66 และ 1.84 ตามลำดับ) เมื่อพิจารณาถึงผลต่างของคะแนนทั้ง 2 ส่วน ผลปรากฏว่า มีความแตกต่างกัน ทั้งรายพฤติกรรมและภาพรวม ดังนี้ ด้านการทำงานร่วมกับเพื่อน มีความแตกต่างกัน 1.11 คิดเป็นร้อยละ 37.66 ด้านการรับผิดชอบมุ่งมั่นทำงาน มีความแตกต่างกัน 0.89 คิดเป็นร้อยละ 22.33 ด้านการยอมรับความสามารถของผู้อื่น มีความแตกต่างกัน 1.00 คิดเป็นร้อยละ 33.33 ด้านการปฏิบัติตามกติกา/ข้อตกลง มีความแตกต่างกัน 1.17 คิดเป็นร้อยละ 39.00 และในภาพรวม มีความแตกต่างกัน 1.03 คิดเป็นร้อยละ 33.00 แสดงว่า การพัฒนาพฤติกรรมทางสังคม ด้านความร่วมมือโดยการจัดประสบการณ์กิจกรรมสร้างสรรค์ร่วมด้วยช่วยกัน ซึ่งเปรียบเทียบความแตกต่างของคะแนนหลังสูงกว่าก่อนการจัดประสบการณ์ โดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ร่วมด้วยช่วยกันทุกพฤติกรรมและภาพรวม