ชื่อเรื่อง การพัฒนาทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์ด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ
และเทคนิคการสอนแบบสืบเสาะ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเขาพระนอนวิทยาคม
ผู้วิจัย นางสาวฉัตรแก้ว ภูนาหา
ตำแหน่ง ครูชำนาญการ โรงเรียนเขาพระนอนวิทยาคม อำเภอยางตลาด
จังหวัดกาฬสินธุ์
สถานที่วิจัย โรงเรียนเขาพระนอนวิทยาคม อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 24
ปีที่วิจัย ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560
บทคัดย่อ
การพัฒนาทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์ด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษและเทคนิคการสอนแบบสืบเสาะ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเขาพระนอนวิทยาคม มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อสร้างและพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างคะแนนสอบก่อนเรียนกับหลังเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษและเทคนิคการสอนแบบสืบเสาะ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 3) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลทางการเรียนของนักเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษและเทคนิคการสอนแบบสืบเสาะ ชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 3 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษและเทคนิคการสอนแบบสืบเสาะ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ เป็นนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเขาพระนอนวิทยาคม อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 24 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 36 คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (purposive sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วย 1) แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษและเทคนิคการสอนแบบสืบเสาะ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 18 แผน 2) แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษและเทคนิคการสอนแบบสืบเสาะ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 6 เล่ม 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก 1 ฉบับ จำนวน 40 ข้อ มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.83 และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้วิชาภาษาอังกฤษโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษและเทคนิคการสอนแบบสืบเสาะ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 1 ชุด ผลการศึกษาปรากฏ ดังนี้
1. แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษและเทคนิคการสอนแบบสืบเสาะ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน เท่ากับ 85.25/82.71 ซึ่งสูงกว่าค่าประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐานที่ตั้งไว้ คือ 80/80
2. ผลการเปรียบเทียบค่าคะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ รายวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน รหัสวิชา อ23101 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษและเทคนิคการสอนแบบสืบเสาะพบว่า ค่าคะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. ค่าดัชนีประสิทธิผลทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เท่ากับ 0.6922 แสดงให้เห็นว่าการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะเพื่อพัฒนาการอ่านภาษาอังกฤษ ส่งผลให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้เพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ 69.22
4. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ วิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน ที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษโดยส่วนรวมอยู่ในระดับพอใจมาก
โดยสรุป การจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษและเทคนิคการสอนแบบสืบเสาะ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเขาพระนอนวิทยาคม ส่งผลทำให้นักเรียนมีทักษะการอ่านดีขึ้นและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น มีความพึงพอใจต่อการเรียนรู้ ความรักในการอ่าน และความรับผิดชอบมากขึ้น สามารถนำวิธีการอ่านไปบูรณาการกับวิชาอื่น ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ