ชื่อเรื่อง รายงานการพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ รายวิชา พ 33101
สุขศึกษา 5 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนท่าเรือ นิตยานุกูล
ผู้ศึกษา นางสาวอนงค์ สีม่วงงาม ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ
กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา
โรงเรียนท่าเรือ นิตยานุกูล
จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ปีการศึกษา 2560
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) พัฒนาและหาประสิทธิภาพชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะ หาความรู้ รายวิชา พ 33101 สุขศึกษา 5 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนท่าเรือ นิตยานุกูล ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 (2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนท่าเรือ นิตยานุกูล ก่อนและหลังการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ รายวิชา พ 33101 สุขศึกษา 5 และ (3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนท่าเรือ นิตยานุกูล ที่มีต่อชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ รายวิชา พ 33101 สุขศึกษา 5 แบ่งขั้นตอนการดำเนินการศึกษา เป็น 2 ขั้น คือ ขั้นที่ 1 การพัฒนาและหาประสิทธิภาพชุดกิจกรรมการเรียนรู้ กลุ่มตัวอย่างที่ศึกษา ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/3 โรงเรียนท่าเรือ นิตยานุกูล ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 จำนวน 37 คน ขั้นที่ 2 การศึกษาผลการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ กลุ่มตัวอย่างที่ศึกษา ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/5 โรงเรียนท่าเรือ นิตยานุกูล ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 41 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วย ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ รายวิชา พ 33101 สุขศึกษา 5 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนท่าเรือนิตยานุกูล พร้อมคู่มือ แผนการจัดการเรียนรู้ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนรายหน่วยการเรียนรู้ และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนท่าเรือนิตยานุกูล ที่มีต่อชุดกิจกรรมการเรียนรู้ สถิติที่ใช้ ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย (X-)ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ค่าประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 จากสูตร E1/E2 และสถิติทดสอบที (t-test dependent) ผลการศึกษาสรุปได้ ดังนี้
1. ขั้นการพัฒนาและหาประสิทธิภาพชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ รายวิชา พ 33101 สุขศึกษา 5 พบว่า
1.1 ค่าประสิทธิภาพชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ รายวิชา พ 33101 สุขศึกษา 5 เล่มที่ 1 เรื่อง การสร้างเสริมสุขภาพชุมชน มีค่า E1/E2 เท่ากับ 80.22/81.44 เล่มที่ 2 เรื่อง ห่างไกลสารเสพติด มีค่า E1/E2 เท่ากับ 80.57/81.62 เล่มที่ 3 เรื่อง สื่อโฆษณากับการบริโภค เท่ากับ 80.54/81.26 และเล่มที่ 4 เรื่อง ชุมชนปลอดภัย มีค่า E1/E2 เท่ากับ 80.65/81.62 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 80/80
1.2 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนท่าเรือ นิตยานุกูล ก่อนและหลังการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ รายวิชา พ 33101 สุขศึกษา 5 ทุกเรื่อง มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .01 โดยที่ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียน
1.3 นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนท่าเรือ นิตยานุกูล มีความพึงพอใจต่อชุดกิจกรรม การเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ รายวิชา พ 33101 สุขศึกษา 5 ในภาพรวมระดับมากที่สุด ทุกเรื่อง
2. ขั้นการศึกษาผลการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ รายวิชา พ 33101 สุขศึกษา 5 พบว่า
2.1 ค่าประสิทธิภาพชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ รายวิชา พ 33101 สุขศึกษา 5 เล่มที่ 1 เรื่อง การสร้างเสริมสุขภาพชุมชน มีค่า E1/E2 เท่ากับ 82.63/83.09 เล่มที่ 2 เรื่อง ห่างไกลสารเสพติด มีค่า E1/E2 เท่ากับ 82.15/82.44 เล่มที่ 3 เรื่อง สื่อโฆษณากับการบริโภค เท่ากับ 82.02/82.11 และเล่มที่ 4 เรื่อง ชุมชนปลอดภัย มีค่า E1/E2 เท่ากับ 81.68/82.11 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 80/80
2.2 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนท่าเรือ นิตยานุกูล ก่อนและหลังการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ รายวิชา พ 33101 สุขศึกษา 5 ทุกเรื่อง มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .01 โดยที่ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียน
2.3 นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนท่าเรือ นิตยานุกูล มีความพึงพอใจต่อชุดกิจกรรม การเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ รายวิชา พ 33101 สุขศึกษา 5 ในภาพรวมระดับมากที่สุด ทุกเรื่อง