ชื่อเรื่อง รายงานการพัฒนาการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะ เรื่อง หลักธรรมนำชีวิต
กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑
ผู้ศึกษา นายณัฐนันท์ ธนัทพิพัฒน์กุล
ปีที่ทำการศึกษา ๒๕๖๐
สังกัด โรงเรียนชุมชนดูนสาด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต ๔
บทคัดย่อ
การจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะสามารถจัดการเรียนรู้ช่วยให้ผู้เรียนได้เรียนรู้อย่างเป็นกระบวนการ สามารถฝึกปฏิบัติ คิดวิเคราะห์ ได้เรียนรู้สถานการณ์ต่างๆ อย่างเข้าใจ พิจารณาด้วยเหตุผลเกี่ยวกับสถานการณ์ เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติจริงที่ถูกต้อง เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ฝึกปฏิบัติกิจกรรมการเรียนรู้ ได้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ความคิดเห็นกัน มีเจคติที่ดีต่อการเรียน ส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น มีสุขภาพจิตที่ดี ทำให้การเรียนรู้ประสบผลสำเร็จตามเป้าหมายและนำความรู้ไปใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวัน
วัตถุประสงค์
๑. เพื่อพัฒนาการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะ เรื่อง หลักธรรมนำชีวิต กลุ่มสาระ การเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ ๘๐/๘๐
๒. เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะ เรื่อง หลักธรรม นำชีวิต กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑
๓. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ ที่เรียนรู้ด้วย การจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะ เรื่อง หลักธรรมนำชีวิต กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน
๔. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียนรู้จากการใช้แบบฝึกทักษะ เรื่อง หลักธรรม นำชีวิต กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ ภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๐ โรงเรียนชุมชนดูนสาด ตำบลดูนสาด อำเภอกระนวน จังหวัดขอนแก่น จำนวน ๓๒ คน ระยะเวลา ๑๒ ชั่วโมง เครื่องมือที่ใช้ได้แก่ แบบฝึกทักษะ เรื่อง หลักธรรมนำชีวิต ๑๒ ชุด แผนการจัดการเรียนรู้ ๑๒ แผน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบทดสอบวัดผลตามจุดประสงค์การเรียนรู้ ๑๒ ชุด แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียน และแบบสังเกตพฤติกรรมระหว่างเรียนของนักเรียน
ผลจากการศึกษา
๑. การจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะ เรื่อง หลักธรรมนำชีวิต กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ ที่ผู้รายงานสร้างขึ้นมีประสิทธิภาพ ๘๕.๙๖/๘๓.๖๕ ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้
๒. ดัชนีประสิทธิผลของการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะ เรื่องหลักธรรมนำชีวิต กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ มีค่าเท่ากับ ๐.๗๑๒๔ แสดงว่าผู้เรียนมีความรู้เพิ่มขึ้น ร้อยละ ๗๑.๒๔
๓. คะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน โดยมีนัยสำคัญ ทางสถิติที่ระดับ .๐๑
๔. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะ เรื่องหลักธรรมนำชีวิต กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม มีค่าเฉลี่ย ๔.๕๑ และมีส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ ๐.๕๕ แสดงว่านักเรียน มีความพึงพอใจในระดับมากที่สุด
สรุปได้ว่า การจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะ เรื่อง หลักธรรมนำชีวิต กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ มีประสิทธิผล ครูผู้สอนสามารถนำไปใช้ได้และควรมีการพัฒนาการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะ เรื่อง หลักธรรมนำชีวิต กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นจะทำให้นักเรียนตั้งใจเรียน มีคุณธรรมและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้นด้วย