|
|
รายงานผลการพัฒนาแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องความน่าจะเป็นร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีวัตถุประสงค์เพื่อ ดังนี้ 1) สร้างและหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องความน่าจะเป็น สำหรับนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนพระพรหมพิทยานุสรณ์ ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้การจัดกิจกรรม การเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์เรื่องความน่าจะเป็น ร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD สำหรับนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนพระพรหมพิทยานุสรณ์ 3) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนพระพรหมพิทยานุสรณ์ ที่มีต่อการใช้การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์เรื่องความน่าจะเป็น ร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/2 โรงเรียนพระพรหมพิทยานุสรณ์ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 23 คน ได้มาโดยวิธีการสุ่มอย่างง่าย โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยการสุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ประกอบด้วย แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์จำนวน 5 ชุด แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 18 แผน และแบบประเมินความพึงพอใจ จำนวน 15 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลคือ ค่าร้อยละ ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที (t-test)
ผลการวิจัย พบว่า 1) แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องความน่าจะเป็น ร่วมกับการเรียนรู้
แบบร่วมมือโดยใช้เทคนิคการสอนแบบ STAD สำหรับนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพ 80.12/80.43 ซึ่งเป็นเกณฑ์ที่กำหนด 2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องความน่าจะเป็น ร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้เทคนิคการสอนแบบ STAD สำหรับนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 3 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 แสดงว่าเมื่อนักเรียนได้เรียนด้วยแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องความน่าจะเป็น ร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD สำหรับนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 3 แล้ว ทำให้นักเรียนมีความสามารถในการเรียนรู้เรื่องความน่าจะเป็นเพิ่มสูงขึ้นจากเดิม 3) ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้ โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องความน่าจะเป็น ร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้เทคนิคการสอนแบบ STAD สำหรับนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 3 ในภาพรวมนักเรียนมีความพอใจอยู่ในระดับ
มากที่สุด
|
โพสต์โดย ปิยะ : [25 มิ.ย. 2561 เวลา 02:13 น.] อ่าน [4833] ไอพี : 159.192.220.211
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 9,881 ครั้ง
| เปิดอ่าน 6,686 ครั้ง
| เปิดอ่าน 25,019 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,383 ครั้ง
| เปิดอ่าน 17,618 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,495 ครั้ง
| เปิดอ่าน 31,711 ครั้ง
| เปิดอ่าน 17,665 ครั้ง
| เปิดอ่าน 7,820 ครั้ง
| เปิดอ่าน 124,956 ครั้ง
| เปิดอ่าน 55,738 ครั้ง
| เปิดอ่าน 46,936 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,040 ครั้ง
| เปิดอ่าน 26,683 ครั้ง
| เปิดอ่าน 16,773 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 2,851 ครั้ง
| เปิดอ่าน 20,190 ครั้ง
| เปิดอ่าน 88,657 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,207 ครั้ง
| เปิดอ่าน 44,346 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|