|
|
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) สร้างชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน เรื่อง เซต สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง เซต ก่อนและหลังการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 3) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนต่อกิจกรรมการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน เรื่อง เซต สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
1) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน เรื่อง เซต สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ทั้งหมด 9 ชุดกิจกรรม 2) คู่มือประกอบการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน เรื่อง เซต สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ซึ่งแต่ละคู่มือประกอบด้วยแผนการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง เซต สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่ได้เรียนรู้จากชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน ทั้งหมด 9 คู่มือ 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ เรื่อง เซต สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่ได้เรียนรู้จากกิจกรรมการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน แบบปรนัย จำนวน 30 ข้อ มีค่าความเชื่อมั่น0.81 และแบบอัตนัย จำนวน 5 ข้อ มีค่าความเชื่อมั่น0.83 4) แบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนต่อชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน เรื่อง เซต สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มีค่าความเชื่อมั่น 0.87 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบที (t - test) แบบ Dependent และประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80
ผลการวิจัยพบว่า
1. ประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน เรื่อง เซต สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มีประสิทธิภาพ E1/ E2 = 88.30/86.30 สูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง เซต โดยการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 หลังการใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน สูงกว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ก่อนการใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
3. ความพึงพอใจของนักเรียนต่อกิจกรรมการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน โดยภาพรวม อยู่ในระดับ พึงพอใจมาก แต่เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า นักเรียนมีคะแนนเฉลี่ยด้านการจัดกิจกรรมการเรียนรู้มากที่สุด รองลงมา คือ ด้านสื่อการเรียนการสอน ด้านสาระการเรียนรู้ และ ด้านการวัดและประเมินผล ซึ่งทั้งสี่ด้านนักเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก
|
โพสต์โดย นุชนารถ ทองกระจ่าง : [24 มิ.ย. 2561 เวลา 16:51 น.] อ่าน [5110] ไอพี : 101.109.30.224
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 740 ครั้ง
| เปิดอ่าน 19,475 ครั้ง
| เปิดอ่าน 20,819 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,330 ครั้ง
| เปิดอ่าน 50,738 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,500 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,825 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,588 ครั้ง
| เปิดอ่าน 60,349 ครั้ง
| เปิดอ่าน 16,104 ครั้ง
| เปิดอ่าน 16,288 ครั้ง
| เปิดอ่าน 17,155 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,062 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,112 ครั้ง
| เปิดอ่าน 20,190 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 20,696 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,844 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,292 ครั้ง
| เปิดอ่าน 61,017 ครั้ง
| เปิดอ่าน 44,914 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|