ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานการเปรียบเทียบการพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้สุขศึกษา โดยใช้วิธีสอนแบบวัฎจักร 7 ขั้น กับวิธีสอนแบบปกติ เรื่อง การสร้างเสร

รายงานการเปรียบเทียบการพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้สุขศึกษา โดยใช้วิธีสอนแบบวัฎจักร 7 ขั้น

กับวิธีสอนแบบปกติ เรื่อง การสร้างเสริมสุขภาพกายและการป้องกันโรค สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีวัตถุประสงค์ของการวิจัยเพื่อ 1) พัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้สุขศึกษา

โดยใช้วิธีสอนแบบวัฏจักร 7 ขั้น เรื่อง การสร้างเสริมสุขภาพกายและการป้องกันโรค สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้สุขศึกษา โดยใช้วิธีสอนแบบวัฏจักร 7ขั้น เรื่อง การสร้างเสริมสุขภาพกายและการป้องกันโรค สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 3) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนกลุ่มทดลอง ที่เรียนโดยใช้วีสอนแบบวัฏจักร- 7 ขั้น กับกลุ่มควบคุมที่เรียนโดยใช้วิธีสอนแบบปกติ เรื่อง การสร้างเสริมสุขภาพกายและการป้องกันโรค สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 4) เปรียบเทียบเจตคติของนักเรียนต่อการสร้างเสริม สุขภาพกายและป้องกันโรคของนักเรียนที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้สุขศึกษา โดยใช้วิธีสอนแบบวัฏจักร 7 ขั้น เรื่อง การเสริมสร้างสุขภาพกายและการป้องกันโรค สำหรับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กับกลุ่มควบคุมที่เรียนโดยใช้วิธีสอนแบบปกติ และ 5) เปรียบเทียบการปฏิบัติเกี่ยวกับการสร้างเสริมสุขภาพกายและการป้องกันโรคของนักเรียนที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ สุขศึกษา โดยใช้วิธีสอนแบบ วัฏจักร 7 ขั้น เรื่อง การสร้างเสริมสุขภาพกายและการป้องกันโรค สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กับกลุ่มควบคุมที่เรียนโดยใช้วิธีสอนแบบปกติ กลุ่มตัวอย่างวิจัยประกอบด้วยกลุ่มทดลอง ได้แก่ นักเรียนที่กำลังศึกษาอยู่ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/1 โรงเรียนอำมาตย์พานิชนุกูล ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 44 คน และกลุ่มควบคุม ได้แก่ นักเรียนที่กำลังศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/7 โรงเรียนอำมาตย์พานิชนุกูล ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 44 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยสำหรับกลุ่มทดลอง ประกอบด้วย 1) แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง การสร้างเสริมสุขภาพกายและการป้องกันโรค ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ใช้วิธีสอนแบบวัฏจักร 7 ขั้น จำนวน 18 แผน 2) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้สุขศึกษา เรื่อง การสร้างเสริมสุขภาพกายและการป้องกันโรค สำหรับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ใช้วิธีสอนแบบวัฏจักร 7 ขั้น จำนวน 9 เล่ม 3) แบบทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การสร้างเสริมสุขภาพกายและการป้องกันโรค สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 40 ข้อ 4) แบบสอบถามเจตคติ ของนักเรียนต่อชุดกิจกรรมการเรียนรู้สุขศึกษา โดยใช้วิธีสอนแบบวัฏจักร 7 ขั้น เรื่อง การสร้างเสริมสุขภาพกายและการป้องกันโรค สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 20 ข้อ

และ 5) แบบสอบถามการปฏิบัติเกี่ยวกับการสร้างเสริมสุขภาพกายและการป้องกันโรค จำนวน 20 ข้อ สำหรับนักเรียนกลุ่มควบคุม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย เหมือนกับเครื่องมือที่ใช้กับกลุ่มทดลอง แตกต่างเฉพาะแผนการจัดการเรียนรู้ที่จัดทำตามคู่มือครูและจัดการเรียนรู้แบบปกติ สถิติที่ใช้

ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และเปรียบเทียบ

ความแตกต่างด้วย Dependent Sample t-test, และ Independent Samplet – test

ผลการวิจัยพบว่า

1.ชุดกิจกรรมการเรียนรู้สุขศึกษา เรื่อง การสร้างเสริมสุขภาพกายและการป้องกันโรค สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 79.97/79.55 สูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ 75/75

2.ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การสร้างเสริมสุขภาพกายและการป้องกันโรค สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05

3.ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างกลุ่มทดลองที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้สุขศึกษา โดยใช้วิธีสอนแบบวัฏจักร 7 ขั้น เรื่อง การสร้างเสริมสุขภาพการและการป้องกันโรค สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กับกลุ่มควบคุมที่เรียนโดยใช้วิธีสอนแบบปกติ แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05

4.ผลการเปรียบเทียบ เจตคติต่อการสร้างเสริมสุขภาพกายและการป้องกันโรคของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มทดลองมีค่าเฉลี่ยสูงกว่ากลุ่มควบคุม

5.ผลการเปรียบเทียบการปฏิบัติเกี่ยวกับการสร้างเสริมสุขภาพกายและการป้องกันโรค ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มทดลองมีค่าเฉลี่ยสูงกว่ากลุ่มควบคุม

โพสต์โดย ครูภางค์ : [24 มิ.ย. 2561 เวลา 15:46 น.]
อ่าน [4068] ไอพี : 118.173.123.19
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 3,895 ครั้ง
William Herschel (วิลเลียม เฮอร์เชล) : ผู้ค้นพบอินฟราเรด และ ดาวยูเรนัส
William Herschel (วิลเลียม เฮอร์เชล) : ผู้ค้นพบอินฟราเรด และ ดาวยูเรนัส

เปิดอ่าน 20,077 ครั้ง
"กระเจี๊ยบแดง" ยาดีลดความดัน
"กระเจี๊ยบแดง" ยาดีลดความดัน

เปิดอ่าน 36,063 ครั้ง
แผนปฏิบัติการประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2559 สพฐ.
แผนปฏิบัติการประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2559 สพฐ.

เปิดอ่าน 10,866 ครั้ง
เคล็ดลับเพื่อริมฝีปากเนียนนุ่ม
เคล็ดลับเพื่อริมฝีปากเนียนนุ่ม

เปิดอ่าน 36,155 ครั้ง
6 ข้อต้องรู้! รบ.แจงผ่อนปรน นั่งแค็บ-ท้ายกระบะ
6 ข้อต้องรู้! รบ.แจงผ่อนปรน นั่งแค็บ-ท้ายกระบะ

เปิดอ่าน 15,970 ครั้ง
ดูกันหรือยัง? เกือบจะ 40 ล้านวิวแล้ว โฆษณาน้ำแร่ดังยี่ห้อหนึ่ง
ดูกันหรือยัง? เกือบจะ 40 ล้านวิวแล้ว โฆษณาน้ำแร่ดังยี่ห้อหนึ่ง

เปิดอ่าน 80,191 ครั้ง
เสียงทุ้ม-เสียงแหลม
เสียงทุ้ม-เสียงแหลม

เปิดอ่าน 14,990 ครั้ง
ศาลาเครื่องราชอิสริยยศ เครื่องราชอิสริยาภรณ์ และเหรียญกษาปณ์
ศาลาเครื่องราชอิสริยยศ เครื่องราชอิสริยาภรณ์ และเหรียญกษาปณ์

เปิดอ่าน 22,038 ครั้ง
ยุบ สพฐ. จัดตั้งของใหม่ คิดกันดีแล้วเหรอ?? ไม่เหนื่อยต่อการพายเรือในอ่างหรือ?!
ยุบ สพฐ. จัดตั้งของใหม่ คิดกันดีแล้วเหรอ?? ไม่เหนื่อยต่อการพายเรือในอ่างหรือ?!

เปิดอ่าน 41,158 ครั้ง
ทำไมคนญี่ปุ่นไม่แซงคิว...เรื่องดี ๆ ที่อยากให้อ่าน
ทำไมคนญี่ปุ่นไม่แซงคิว...เรื่องดี ๆ ที่อยากให้อ่าน

เปิดอ่าน 21,600 ครั้ง
กระทรวงศึกษาธิการกับการปรับโครงสร้าง
กระทรวงศึกษาธิการกับการปรับโครงสร้าง

เปิดอ่าน 9,076 ครั้ง
ศัลยกรรมพลิกชีวิต ในรายการวีไอพี
ศัลยกรรมพลิกชีวิต ในรายการวีไอพี

เปิดอ่าน 1,306,724 ครั้ง
เสียงในภาษาไทย
เสียงในภาษาไทย

เปิดอ่าน 12,487 ครั้ง
ผักที่มีรูจากแมลงใช่ว่าจะปลอดภัยเสมอไป...
ผักที่มีรูจากแมลงใช่ว่าจะปลอดภัยเสมอไป...

เปิดอ่าน 24,003 ครั้ง
ความลี้ลับของ สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา
ความลี้ลับของ สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา

เปิดอ่าน 15,850 ครั้ง
โทรภาพ สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 7
โทรภาพ สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 7
เปิดอ่าน 19,161 ครั้ง
10 อันดับเมืองที่มลพิษมากที่สุดในโลก
10 อันดับเมืองที่มลพิษมากที่สุดในโลก
เปิดอ่าน 14,952 ครั้ง
ภาพหาชมยาก! "ลูกเพียงพอน" ขี่หลัง "นกหัวขวาน"
ภาพหาชมยาก! "ลูกเพียงพอน" ขี่หลัง "นกหัวขวาน"
เปิดอ่าน 260 ครั้ง
CRM คืออะไร ระบบบริหารลูกค้าสัมพันธ์ที่คนทำธุรกิจต้องรู้จัก!
CRM คืออะไร ระบบบริหารลูกค้าสัมพันธ์ที่คนทำธุรกิจต้องรู้จัก!
เปิดอ่าน 19,637 ครั้ง
ไขความลับ 95 ภาพสุดยอดจากรอยเตอร์ มาจากกล้องอะไร ตั้งค่าแบบไหน
ไขความลับ 95 ภาพสุดยอดจากรอยเตอร์ มาจากกล้องอะไร ตั้งค่าแบบไหน

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ