ชื่อเรื่อง : ผลการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับกระบวนการ
แก้โจทย์ปัญหาแบบโพลยา เรื่อง เสียง วิชาฟิสิกส์ 3 ว32201 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
โรงเรียนสตรีปากพนัง อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช
ชื่อผู้วิจัย : นางอมรรัตน์ เลขาผล
โรงเรียน : โรงเรียนสตรีปากพนัง
ปีการศึกษา : 2560
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้(5E) ร่วมกับกระบวนการแก้โจทย์ปัญหาแบบโพลยา เรื่อง เสียง วิชาฟิสิกส์ 3 ว32201 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนและหลังเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับกระบวนการแก้โจทย์ปัญหาแบบโพลยา เรื่อง เสียง วิชาฟิสิกส์ 3 ว32201 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 3) เพื่อศึกษาความคงทนในการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับกระบวนการแก้โจทย์ปัญหาแบบโพลยา เรื่อง เสียง วิชาฟิสิกส์ 3 ว32201 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับกระบวนการแก้โจทย์ปัญหาแบบโพลยา เรื่อง เสียง วิชาฟิสิกส์ 3 ว32201 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/1 ของโรงเรียนสตรีปากพนัง อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 33 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Random Sampling) โดยกำหนดให้เป็นนักเรียน
ที่เรียนอยู่ในแผนการเรียนวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์ เครื่องมือที่ใช้ประกอบด้วย 1) ชุดกิจกรรม
การเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับกระบวนการแก้โจทย์ปัญหาแบบโพลยา เรื่อง เสียง วิชาฟิสิกส์ 3 ว32201 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 7 ชุด 2) แผนการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับกระบวนการแก้โจทย์ปัญหาแบบโพลยา เรื่อง เสียง วิชาฟิสิกส์ ว32201 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 7 แผน 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง เสียง วิชาฟิสิกส์ 3 ว32201 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับกระบวนการแก้โจทย์ปัญหาแบบโพลยา เรื่อง เสียง วิชาฟิสิกส์ 3 ว32201 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 15 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทดสอบสมมติฐานโดยใช้
ค่า t-test แบบ Dependent Samples
ผลการวิจัยพบว่า
1. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับกระบวนการแก้โจทย์ปัญหาแบบโพลยา เรื่อง เสียง วิชาฟิสิกส์ 3 ว32201 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 81.05/80.08 สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 80/80
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ
สืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับกระบวนการแก้โจทย์ปัญหาแบบโพลยา เรื่อง เสียง วิชาฟิสิกส์ 3
ว32201 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/1 ที่ได้รับการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ
สืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับกระบวนการแก้โจทย์ปัญหาแบบโพลยา เรื่อง เสียง วิชาฟิสิกส์ 3
ว32201 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีความคงทนในการเรียนรู้
4. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/1 มีความพึงพอใจต่อการเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรม
การเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับกระบวนการแก้โจทย์ปัญหาแบบโพลยา เรื่อง เสียง วิชาฟิสิกส์ 3 ว32201 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โดยรวมอยู่ในระดับมาก ( = 4.19, S.D. = .22)