ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาชุดกิจกรรมแบบสืบเสาะหาความรู้ เรื่อง อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี วิชาเคมี ๓ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕

ชื่อเรื่อง การพัฒนาชุดกิจกรรมแบบสืบเสาะหาความรู้ เรื่อง อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี

วิชาเคมี 3 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5

ผู้วิจัย นางสาวกษมา ลาดสะอาด

ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะครูชำนาญการ

สังกัด โรงเรียนสุรวิทยาคาร จังหวัดสุรินทร์ สำนักเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 33

ปีที่พิมพ์ 2561

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยและพัฒนามีวัตถุประสงค์การวิจัย 1) เพื่อพัฒนาชุดกิจกรรมแบบสืบเสาะหาความรู้ เรื่อง อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี วิชาเคมี 3 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี วิชาเคมี 3 ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนสุรวิทยาคารที่เรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมแบบ สืบเสาะหาความรู้ ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน 3) เพื่อหาดัชนีประสิทธิผลจากการใชชุดกิจกรรมแบบสืบเสาะหาความรู้ เรื่อง อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี วิชาเคมี 3 นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 และ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้ชุชุดกิจกรรมแบบสืบเสาะหาความรู้ เรื่อง อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี วิชาเคมี 3 ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนสุรวิทยาคาร

กลุ่มตัวอย่างที่ใช้สอนเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/3 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนสุรวิทยาคาร จังหวัดสุรินทร์ จำนวน 39 คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) ใช้เวลาในการทดลอง 18 ชั่วโมง (ไม่รวมเวลา ที่ใช้ในการทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน) เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ ชุดกิจกรรมแบบสืบเสาะหาความรู้ วิชาเคมี 3 เรื่อง อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 9 ชุด แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 1 ฉบับ 40 ข้อ ซึ่งมีค่าความยากตั้งแต่ 0.32 ถึง 0.64 และค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.23 ถึง 0.59 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.7817 และแบบสอบถามความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรม จำนวน 20 ข้อ มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.848 สถิติที่ใช้ ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติที่ใช้วิเคราะห์ความแตกต่างระหว่างคะแนนก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนที่เรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมแบบสืบเสาะหาความรู้ ใช้ค่า t-test (Dependent Sample)

สรุปผลการวิจัย

1. ผลการพัฒนาและหาประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมแบบสืบเสาะหาความรู้ วิชาเคมี 3 เรื่อง อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่ผู้วิจัยสร้างและพัฒนาขึ้น และนำไปทดลองภาคสนาม พบว่า มีประสิทธิภาพเท่ากับ 84.25/82.56 สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด 80/80 ซึ่ง ชุดกิจกรรมแต่ละชุดมีประสิทธิภาพ ดังนี้ ชุดกิจกรรมที่ 1 เรื่อง ความหมายของอัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี มีประสิทธิภาพ 86.09/82.00 ชุดกิจกรรมที่ 2 เรื่อง การคำนวณเกี่ยวกับอัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี มีประสิทธิภาพ86.15/80.00 ชุดกิจกรรมที่ 3 เรื่อง แนวคิดเกี่ยวกับการเกิดปฏิกิริยาเคมี มีประสิทธิภาพ 83.93/81.78 ชุดกิจกรรมที่ 4 เรื่อง พลังงานกับการดำเนินไปของปฏิกิริยาเคมี มีประสิทธิภาพ 82.89/80.67 ชุดกิจกรรมที่ 5 เรื่อง ธรรมชาติของสารตั้งต้นกับอัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี มีประสิทธิภาพ 85.65/82.22 ชุดกิจกรรมที่ 6 เรื่อง พื้นที่ผิวของสารกับอัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี มีประสิทธิภาพ 83.46/81.78 ชุดกิจกรรมที่ 7 เรื่อง ความเข้มข้นของสารกับอัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี มีประสิทธิภาพ 85.37/82.22 ชุดกิจกรรมที่ 8 เรื่อง อุณหภูมิกับอัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี มีประสิทธิภาพ 85.17/80.89 และชุดกิจกรรมที่ 9 เรื่อง ตัวเร่งและตัวหน่วงปฏิกิริยาเคมีกับอัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี มีประสิทธิภาพ 85.09/80.44

2. เพื่อเปรียบเทียบผลการเรียนรู้ เรื่อง อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี วิชาเคมี3 ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนสุรวิทยาคารโดยใช้ชุดกิจกรรมก่อนและหลังเรียนในด้านความรู้ พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญ ทางสถิติที่ระดับ .01 และคะแนนทดสอบหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ทุกชุด

3. ผลการศึกษาดัชนีประสิทธิผลของชุดกิจกรรมแบบสืบเสาะหาความรู้ วิชาเคมี 3 เรื่อง อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีค่าเท่ากับ 0.7181 แสดงว่านักเรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียนเพิ่มขึ้นร้อยละ 71.81 แสดงให้เห็นถึงนักเรียนมีผลการเรียนรู้ เรื่อง อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี ที่สูงขึ้นจริง

4. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมแบบสืบเสาะหาความรู้ เรื่อง อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.37

โดยสรุป ชุดกิจกรรมแบบสืบเสาะหาความรู้ วิชาเคมี3 เรื่อง อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี ของชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีประสิทธิภาพ มีประโยชน์ต่อกิจกรรมการเรียนรู้ นักเรียนสามารถเรียน ได้ด้วยตนเองและมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาเคมีสูงขึ้น

โพสต์โดย หวาน : [22 มิ.ย. 2561 เวลา 13:21 น.]
อ่าน [3189] ไอพี : 103.10.228.70
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 19,676 ครั้ง
รู้หรือยัง? วันนี้ (1 ก.ค.58) ประเทศไทยเปลี่ยนเวลาให้ช้าลง 1 วินาที อย่างเป็นทางการแล้ว
รู้หรือยัง? วันนี้ (1 ก.ค.58) ประเทศไทยเปลี่ยนเวลาให้ช้าลง 1 วินาที อย่างเป็นทางการแล้ว

เปิดอ่าน 16,638 ครั้ง
ประวัติไข้หวัดใหญ่ที่เคยระบาดบนโลก
ประวัติไข้หวัดใหญ่ที่เคยระบาดบนโลก

เปิดอ่าน 12,280 ครั้ง
สลัดผักดีกับสุขภาพจริง แต่ต้องกินให้ถูกวิธีด้วยเช่นกัน
สลัดผักดีกับสุขภาพจริง แต่ต้องกินให้ถูกวิธีด้วยเช่นกัน

เปิดอ่าน 8,585 ครั้ง
ประโยชน์ของการหัวเราะ
ประโยชน์ของการหัวเราะ

เปิดอ่าน 17,766 ครั้ง
รู้หรือไม่ว่า 10 ข้อที่เด็กทุกคนในโลกนี้ต้องการมากที่สุดคืออะไร
รู้หรือไม่ว่า 10 ข้อที่เด็กทุกคนในโลกนี้ต้องการมากที่สุดคืออะไร

เปิดอ่าน 11,846 ครั้ง
"ข้าวหลามดง" ไม่ใช่อาหาร แต่มันคืออะไร?
"ข้าวหลามดง" ไม่ใช่อาหาร แต่มันคืออะไร?

เปิดอ่าน 7,519 ครั้ง
สุดเจ๋ง! หนุ่มจบ ม.6 ประดิษฐ์เครื่องผลิตกระแสไฟฟ้าใช้ยกหมู่บ้าน
สุดเจ๋ง! หนุ่มจบ ม.6 ประดิษฐ์เครื่องผลิตกระแสไฟฟ้าใช้ยกหมู่บ้าน

เปิดอ่าน 28,940 ครั้ง
การถ่ายภาพมาโคร MACRO PHOTOGRAPHY
การถ่ายภาพมาโคร MACRO PHOTOGRAPHY

เปิดอ่าน 13,871 ครั้ง
ชี้เอเชียรู้จักเทคนิควาดภาพด้วยสีน้ำมันก่อนยุโรปหลายร้อยปี
ชี้เอเชียรู้จักเทคนิควาดภาพด้วยสีน้ำมันก่อนยุโรปหลายร้อยปี

เปิดอ่าน 27,616 ครั้ง
การพิมพ์หนังสือราชการภาษาไทยด้วยโปรแกรมการพิมพ์ในเครื่องคอมพิวเตอร์ (ตามระเบียบสำนักนายกฯ)
การพิมพ์หนังสือราชการภาษาไทยด้วยโปรแกรมการพิมพ์ในเครื่องคอมพิวเตอร์ (ตามระเบียบสำนักนายกฯ)

เปิดอ่าน 107,458 ครั้ง
ความเชื่อของชาวอีสาน
ความเชื่อของชาวอีสาน

เปิดอ่าน 334,598 ครั้ง
สุภาษิตอิศรญาณ
สุภาษิตอิศรญาณ

เปิดอ่าน 18,117 ครั้ง
เรื่องพระเจ้าอชาตศัตรู
เรื่องพระเจ้าอชาตศัตรู

เปิดอ่าน 10,689 ครั้ง
เหตุผลที่กำหนดให้ 25 ธันวาคม เป็นวันคริสต์มาส
เหตุผลที่กำหนดให้ 25 ธันวาคม เป็นวันคริสต์มาส

เปิดอ่าน 3,839 ครั้ง
ธุรกิจแบบไหนควรจดสิทธิบัตรทั่วโลก หรือ PCT
ธุรกิจแบบไหนควรจดสิทธิบัตรทั่วโลก หรือ PCT

เปิดอ่าน 31,122 ครั้ง
สพฐ.เผยแพร่หน่วยการเรียนรู้ Active Learning ที่ได้รับรางวัลเพื่อเป็นตัวอย่างให้กับครูในการออกแบบหน่วยการเรียนรู้
สพฐ.เผยแพร่หน่วยการเรียนรู้ Active Learning ที่ได้รับรางวัลเพื่อเป็นตัวอย่างให้กับครูในการออกแบบหน่วยการเรียนรู้
เปิดอ่าน 9,184 ครั้ง
Robovi-nano สุดยอดหุ่นยนต์จิ๋ว!!!
Robovi-nano สุดยอดหุ่นยนต์จิ๋ว!!!
เปิดอ่าน 12,090 ครั้ง
วิธีการปลอกเปลือกไข่ต้มที่สมบูรณ์แบบและรวดเร็วที่สุด
วิธีการปลอกเปลือกไข่ต้มที่สมบูรณ์แบบและรวดเร็วที่สุด
เปิดอ่าน 2,356 ครั้ง
อยากจมูกโด่งมีดั้ง จะเลือกผ่าตัดเสริมจมูก ร้อยไหม หรือฉีดฟิลเลอร์ดี?
อยากจมูกโด่งมีดั้ง จะเลือกผ่าตัดเสริมจมูก ร้อยไหม หรือฉีดฟิลเลอร์ดี?
เปิดอ่าน 21,668 ครั้ง
เลี้ยงปลามงคลเสริมโชคลาภ
เลี้ยงปลามงคลเสริมโชคลาภ

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ