ชื่อเรื่อง รายงานการพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะการจัดกิจกรรม
การเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ เทคนิค LT เรื่อง สมการและการแก้สมการ
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านภูมินิยมพัฒนา
ผู้ศึกษา นายชรัณ สารประเสริฐ
ปีการศึกษา 2558
บทคัดย่อ
รายงานการพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ เทคนิค LT เรื่อง สมการและการแก้สมการ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านภูมินิยมพัฒนา มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1. เพื่อศึกษาผลพัฒนาแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ประกอบแบบฝึกทักษะการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ เทคนิค LT เรื่อง สมการและการแก้สมการ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 2. เพื่อหาค่าดัชนีประสิทธิผลแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ประกอบแบบฝึกทักษะการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ เทคนิค LT เรื่อง สมการและการแก้สมการ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 3. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านภูมินิยมพัฒนา อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558 ที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ เทคนิค LT เรื่อง สมการและการแก้สมการ ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน และ 4. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านภูมินิยมพัฒนา อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ จากการเรียนด้วยแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ เทคนิค LT เรื่อง สมการและการแก้สมการ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ซึ่งกลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านภูมินิยมพัฒนา อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3 จำนวน 8 คน ที่ได้มาจากการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) การศึกษาครั้งนี้ ใช้รูปแบบการทดลองกลุ่มเดียวทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน (One Group Pre-Test Post-Test Design) ผลการศึกษาพบว่า
1. แบบฝึกทักษะการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ เทคนิค TAI เรื่อง สมการและการแก้สมการมีประสิทธิภาพ (E1/E2) เท่ากับ 83.25/84.17 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด 80/80
2. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีความก้าวหน้าทางการเรียนเพิ่มขึ้น โดยพิจารณาจากดัชนีประสิทธิผลของการเรียนรู้ด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ เทคนิค TAI เรื่อง สมการและการแก้สมการ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ คิดเป็นร้อยละ 77
3. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านภูมินิยมพัฒนา อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ ที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ เทคนิค LT เรื่อง สมการและการแก้สมการมีคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านภูมินิยมพัฒนา อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ ที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ เทคนิค LT เรื่อง สมการและการแก้สมการ มีความพึงพอใจในภาพรวมอยู่ในระดับมาก