ที่รายงานการพัฒนาแบบฝึกทักษะการเป่าเมโลเดียนเบื้องต้น กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ(ดนตรี) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ชุด เมโลเดียนน่ารู้ นี้ มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อสร้างและพัฒนาแบบฝึกทักษะการเป่าเมโลเดียนเบื้องต้น กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (ดนตรี) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ชุด เมโลเดียนน่ารู้ ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 (2) เพื่อหาค่าดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะการเป่าเมโลเดียนเบื้องต้น กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (ดนตรี) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ชุด เมโลเดียนน่ารู้ (3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะการเป่าเมโลเดียนเบื้องต้น กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ(ดนตรี) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ชุด เมโลเดียนน่ารู้ ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน (4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการเป่าเมโลเดียนเบื้องต้น กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (ดนตรี) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ชุด เมโลเดียนน่ารู้ กลุ่มตัวอย่าง คือนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านโคกสว่าง อำเภอเพ็ญ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต 1 ปีการศึกษา 2560 ภาคเรียนที่ 2 จำนวน 12 คน เครื่องมือที่ใช้ คือ แบบฝึกทักษะการเป่าเมโลเดียนเบื้องต้น กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ(ดนตรี) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ชุด เมโลเดียนน่ารู้ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 30 ข้อ ที่มีค่าความยากง่าย (P) อยู่ระหว่าง 0.40 - 0.70 ค่าอำนาจจำแนก (r) อยู่ระหว่าง
0.20 - 0.40 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ 0.763 และแบบสอบถามความพึงพอใจนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการเป่าเมโลเดียนเบื้องต้น กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (ดนตรี) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ชุดเมโลเดียนน่ารู้ จำนวน 10 ข้อ มีค่าดัชนีความสอดคล้องระหว่าง 0.80 ถึง 1.00 สถิติที่ใช้ คือ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบค่า t-test
จากผลการพัฒนา พบว่า
1. แบบฝึกทักษะการเป่าเมโลเดียนเบื้องต้น กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (ดนตรี) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ชุดเมโลเดียนน่ารู้ มีประสิทธิภาพเท่ากับ 85.24/86.67 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้
2. ค่าดัชนีประสิทธิผลแบบฝึกทักษะทักษะการเป่าเมโลเดียนเบื้องต้น กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (ดนตรี) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ชุดเมโลเดียนน่ารู้ มีค่าเท่ากับ 0.6821 ซึ่งหมายความว่านักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้นร้อยละ 68.21
3. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านโคกสว่าง อำเภอเพ็ญ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต 1 ที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะการเป่าเมโลเดียนเบื้องต้น กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (ดนตรี) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ชุดเมโลเดียนน่ารู้ มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 หมายความว่า หลังจากนักเรียนเรียนด้วยแบบฝึกทักษะการเป่าเมโลเดียนเบื้องต้นแล้วผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น
4. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านโคกสว่าง อำเภอเพ็ญ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต 1 มีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการเป่า
เมโลเดียนเบื้องต้น กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (ดนตรี) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ชุดเมโลเดียนน่ารู้ โดยเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก ( = 4.18)