ชื่อเรื่อง การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและ
เทคโนโลยี(งานเกษตร) เรื่อง การปลูกผักคะน้าอินทรีย์ สำหรับนักเรียนชั้น
มัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยใช้เอกสารประกอบการเรียน
ผู้ศึกษา นายสมพงษ์ บุญสิทธิ์
โรงเรียน บ้านอาจญา ตำบลน้ำเขียว อำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 2
ปีการศึกษา 2559
บทคัดย่อ
การศึกษาในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี(งานเกษตร) ชุดการปลูกผักคะน้าอินทรีย์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อหาค่าดัชนีประสิทธิผลของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้เอกสารประกอบการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานเกษตร) ชุดการปลูกผักคะน้าอินทรีย์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่เรียนโดยใช้เอกสารประกอบการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานเกษตร) ชุดการปลูกผักคะน้าอินทรีย์ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้เอกสารประกอบการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานเกษตร) ชุดการปลูกผักคะน้าอินทรีย์ กลุ่มตัวอย่างได้แก่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษา
ปีที่ 2 โรงเรียนบ้านอาจญา ตำบลน้ำเขียว อำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา สุรินทร์ เขต 2 จำนวน 13 คน ตัวแปรอิสระที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้เอกสารประกอบการเรียน ชุดการปลูกผักคะน้าอินทรีย์
ส่วนตัวแปรตามได้แก่ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความพึงพอใจในการเรียน เครื่องมือที่ใช้
ในการศึกษา ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 11 แผน เอกสารประกอบการเรียน จำนวน
11 เล่ม แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบวัดความพึงพอใจของนักเรียน สถิติที่ใช้
ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงแบนมาตรฐาน เปรียบเทียบความแตกต่างด้วยการทดสอบที (t-test)
ผลการศึกษาพบว่า
1. เอกสารประกอบการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี
(งานเกษตร) ชุดการปลูกผักคะน้าอินทรีย์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 89.82 / 89.74 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้
2. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้เอกสารประกอบการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี(งานเกษตร) ชุดการปลูกผักคะน้าอินทรีย์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.7927 คิดเป็นร้อยละ 79.27
3. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01
4. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
โดยใช้เอกสารประกอบการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี(งานเกษตร)
ชุดการปลูกผักคะน้าอินทรีย์ อยู่ในระดับมากที่สุด