ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
ผลการพัฒนาทักษะ การฟังและพูดภาษาอังกฤษโดยใช้แบบฝึกทักษะเพื่อการสื่อสารสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4

การวิจัยเรื่อง ผลการพัฒนาทักษะ การฟังและพูดภาษาอังกฤษโดยใช้แบบฝึกทักษะเพื่อการสื่อสารสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีวัตถุประสงค์ 1. เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพแบบฝึกทักษะการฟังและพูดภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ให้เป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 2. เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการฟัง-พูดภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ก่อน และหลังเรียน โดยใช้แบบฝึกทักษะ 3. สำรวจความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะการฟังและพูดภาษาอังกฤษโดยวิธีสอนเพื่อการสื่อสารสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยมีกลุ่มตัวอย่างคือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/1 ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2557 โรงเรียนเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน จำนวน 24 คน ได้มาจากการเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง ( Purposive sampling ) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าได้แก่ 1. แบบฝึกทักษะ การฟังและพูดภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 2.แบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 3.แบบสำรวจความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะการฟังและพูดภาษาอังกฤษโดยวิธีสอนเพื่อการสื่อสารสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ผลการวิจัย พบว่า

1. ผลการพัฒนาแบบฝึกทักษะการฟังและพูดภาษาอังกฤษโดยวิธีสอนเพื่อการสื่อสารสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ให้เป็นไปตามเกณฑ์ 80/80

นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/1 โรงเรียนเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2557 จำนวน 24 คน ซึ่งเป็นกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะ การฟังและพูดภาษาอังกฤษโดยวิธีสอนเพื่อการสื่อสารสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยให้นักเรียนศึกษาและฝึกทำกิจกรรมจากแบบฝึกทักษะ การฟังและพูดภาษาอังกฤษโดยวิธีสอนเพื่อการสื่อสารสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ทำแบบทดสอบระหว่างเรียน และทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน โดยประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะ การฟังและพูดภาษาอังกฤษโดยวิธีสอนเพื่อการสื่อสารสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยการทดลองแบบภาคสนาม (Field Testing) มีประสิทธิภาพ โดย E1/E2 มีค่าเท่ากับ 72.3/87.9

2. ผลการเปรียบเทียบความสามารถในการฟัง-พูดภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ก่อน และหลังเรียน โดยใช้แบบฝึกทักษะ

นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/1 โรงเรียนเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นกลุ่มตัวอย่างในการทดลองใช้แบบฝึกทักษะ การฟังและพูดภาษาอังกฤษโดยวิธีสอนเพื่อการสื่อสารสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ได้ทำแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนเพื่อศึกษาผลของการใช้แบบฝึกทักษะการฟัง-พูดภาษาอังกฤษนั้น ผู้วิจัยได้นำข้อมูลมาหาค่าทางสถิติเพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนโดยใช้วิธีการทางสถิติ t-test (Dependent Samples) จากการศึกษา พบว่า ค่า t ที่คำนวณได้ เท่ากับ -7834 มากกว่า ค่า t ที่ได้จากการเปิดตารางที่ระดับ = .05, df = 46 ซึ่งมีค่าเท่ากับ 2.013 นั่นคือผลการทดสอบหลังเรียนของกลุ่มตัวอย่างที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะ การฟังและพูดภาษาอังกฤษโดยวิธีสอนเพื่อการสื่อสารสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีค่าสูงกว่าผลการทดสอบก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 แสดงว่าแบบฝึกทักษะ การฟังและพูดภาษาอังกฤษโดยวิธีสอนเพื่อการสื่อสารสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 สามารถช่วยให้ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น

3. ผลการสำรวจความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะการฟังและพูดภาษาอังกฤษโดยวิธีสอนเพื่อการสื่อสารสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4

ผู้วิจัยได้นำแบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อ แบบฝึกทักษะ การฟังและพูดภาษาอังกฤษโดยวิธีสอนเพื่อการสื่อสารสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ให้นักเรียนประเมินหลังจากการใช้แบบฝึกทักษะ การฟังและพูดภาษาอังกฤษโดยวิธีสอนเพื่อการสื่อสารสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 สรุปได้ว่า ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะการฟังและพูดภาษาอังกฤษโดยวิธีสอนเพื่อการสื่อสารสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดย นักเรียนพึงพอใจหัวข้อที่ 5.แบบฝึกทักษะ การฟังและพูดภาษาอังกฤษ ทำให้นักเรียนพัฒนาทักษะทางภาษาเร็วขึ้น มากที่สุดมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.67 รองลงมาคือหัวข้อที่ 6.นักเรียนมีความพอใจกับรูปแบบ ขนาดและสีของตัวอักษร 4.63 และนักเรียนมีความพึงพอใจน้อยที่สุด ในหัวข้อที่ 1. แบบฝึกทักษะการฟังและพูดภาษาอังกฤษ ช่วยส่งเสริมการฟัง และการพูดภาษาอังกฤษได้ง่ายกว่าเดิม และหัวข้อที่ 8.ขั้นตอนในการใช้แบบฝึกทักษะการฟังและพูดภาษาอังกฤษทำให้นักเรียนชอบเรียนวิชาภาษาอังกฤษ โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากันอยู่ที่ 4.29

โพสต์โดย ultraman : [20 มิ.ย. 2561 เวลา 11:41 น.]
อ่าน [4942] ไอพี : 182.53.197.152
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 28,782 ครั้ง
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ

เปิดอ่าน 21,593 ครั้ง
ฮือฮา! นักวิทยาศาสตร์ค้นพบคลื่นความโน้มถ่วง-ทฤษฎี 100 ปีที่แล้วของไอน์สไตน์!
ฮือฮา! นักวิทยาศาสตร์ค้นพบคลื่นความโน้มถ่วง-ทฤษฎี 100 ปีที่แล้วของไอน์สไตน์!

เปิดอ่าน 9,923 ครั้ง
ไฟร์ฟอกซ์ แซง ไออี 6
ไฟร์ฟอกซ์ แซง ไออี 6

เปิดอ่าน 38,462 ครั้ง
คู่มือประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรียนฯ ตามหลักสูตรแกนกลางฯ 2551 ชั้นม. 3
คู่มือประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรียนฯ ตามหลักสูตรแกนกลางฯ 2551 ชั้นม. 3

เปิดอ่าน 10,622 ครั้ง
การจัดการเรียนการสอนในยุคโลกดิจิตอล
การจัดการเรียนการสอนในยุคโลกดิจิตอล

เปิดอ่าน 10,222 ครั้ง
เคล็ดลับเพื่อผิวสวยใสของสาววัย 20+
เคล็ดลับเพื่อผิวสวยใสของสาววัย 20+

เปิดอ่าน 10,235 ครั้ง
ปฏิรูปการศึกษาเรียนรู้จากผู้ประสบความสำเร็จ: "สิงคโปร์"
ปฏิรูปการศึกษาเรียนรู้จากผู้ประสบความสำเร็จ: "สิงคโปร์"

เปิดอ่าน 13,816 ครั้ง
คลิปสาธิตวิธีการทำแจกันหลอดไฟ
คลิปสาธิตวิธีการทำแจกันหลอดไฟ

เปิดอ่าน 12,494 ครั้ง
ทำความรู้จัก Mosaic กันก่อน
ทำความรู้จัก Mosaic กันก่อน

เปิดอ่าน 97,600 ครั้ง
หลักเกณฑ์การอยู่เวรรักษาการณ์
หลักเกณฑ์การอยู่เวรรักษาการณ์

เปิดอ่าน 13,197 ครั้ง
10 วิธีสร้าง "บ้านสุข" ที่ไม่ใช่แค่ทฤษฎี
10 วิธีสร้าง "บ้านสุข" ที่ไม่ใช่แค่ทฤษฎี

เปิดอ่าน 12,581 ครั้ง
วิธีการปลอกเปลือกไข่ต้มที่สมบูรณ์แบบและรวดเร็วที่สุด
วิธีการปลอกเปลือกไข่ต้มที่สมบูรณ์แบบและรวดเร็วที่สุด

เปิดอ่าน 86,844 ครั้ง
พันธุ์ไม้ในในป่าชายเลน
พันธุ์ไม้ในในป่าชายเลน

เปิดอ่าน 13,676 ครั้ง
ภาษาอังกฤษเด็กไทยไม่ก้าวหน้าปัญหาอยู่ที่ใคร?
ภาษาอังกฤษเด็กไทยไม่ก้าวหน้าปัญหาอยู่ที่ใคร?

เปิดอ่าน 27,023 ครั้ง
8 ยุทธวิธี ออกจากเงินเดือนที่ไม่พอใช้
8 ยุทธวิธี ออกจากเงินเดือนที่ไม่พอใช้

เปิดอ่าน 41,966 ครั้ง
น่าประทับใจการแสดงของนักเรียน พร้อมใจกันเต้นบาสโลป มุทิตาจิตแด่ครูผู้เกษียณอายุราชการ ปีการศึกษา 2559
น่าประทับใจการแสดงของนักเรียน พร้อมใจกันเต้นบาสโลป มุทิตาจิตแด่ครูผู้เกษียณอายุราชการ ปีการศึกษา 2559
เปิดอ่าน 19,690 ครั้ง
การประเมินความจำเป็นในการกำหนดวัตถุประสงค์
การประเมินความจำเป็นในการกำหนดวัตถุประสงค์
เปิดอ่าน 43,249 ครั้ง
โบราณคดีพระราชวังจันทร์ พิษณุโลก
โบราณคดีพระราชวังจันทร์ พิษณุโลก
เปิดอ่าน 29,123 ครั้ง
เซรุ่ม
เซรุ่ม
เปิดอ่าน 19,334 ครั้ง
การมีจินตนาการโดยไม่มีความรู้และความเข้าใจนั้นเรียกว่า การฝันกลางวัน
การมีจินตนาการโดยไม่มีความรู้และความเข้าใจนั้นเรียกว่า การฝันกลางวัน

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ