ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การใช้สื่อการสอนและการเสริมแรงในวิชาคณิตศาสตร์ ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เรื่องการเลื่อนขนานและการสะท้อน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์

บทคัดย่อ

การศึกษาวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาความสามารถในการเรียนวิชาคณิตศาสตร์และเพื่อแก้ปัญหานักเรียนไม่ตั้งใจเรียน โดยใช้สื่อการสอนวิชาคณิตศาสตร์เรื่องการเลื่อนขนานและการสะท้อน ประกอบการเสริมแรงด้วยการให้คำชมเชยระหว่างเรียน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนองค์การสวนยาง 3 จังหวัดนครศรีธรรมราช ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 กลุ่มทดลองเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 9 คน โดยให้นักเรียนฝึกทักษะจากแบบฝึกหัดง่ายไปยาก โดยระหว่างสอนจะใช้สื่อการสอนประกอบ ผู้วิจัยได้สร้างแบบฝึกหัดขึ้น จำนวน 2 ฉบับ และบันทึกคะแนนที่นักเรียนทำได้ แล้วนำไปหาค่าเฉลี่ย

ผลการศึกษาปรากฏว่า การใช้สื่อการสอนวิชาคณิตศาสตร์และการเสริมแรง ทำให้นักเรียนสามารถทำคะแนนได้ค่อนข้างสูงดังจะเห็นได้จากการเปรียบเทียบผลการทำแบบฝึกทักษะทั้ง 2 ฉบับ ของนักเรียน 9 คน โดยเฉลี่ยแล้วคิดเป็นร้อยละ 90.22

การใช้แบบฝึกทักษะและการเสริมแรง

ความสำคัญและที่มา

การสอนคณิตศาสตร์โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องที่เกี่ยวกับเรขาคณิตนั้นเป็นเรื่องยาก จะต้องมีการวาดภาพประกอบการสอนอยู่ทุกครั้ง จึงเป็นปัญหามากสำหรับผู้วาดรูปไม่เก่ง เพราะจะทำอย่างไรให้ผู้เรียนเข้าใจบทเรียนมากขึ้น สำหรับในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 นั้นมีเรื่องเกี่ยวกับเรขาคณิต คือการแปลงทางเรขาคณิต ซึ่งในเนื้อหาแล้วจะต้องอาศัยการวาดภาพเป็นอย่างมาก สำหรับข้าพเจ้าเองนั้นวาดภาพไม่ค่อยเก่งประกอบกับภาพแต่ละภาพจะใช้เวลาในการวาดค่อนข้างมากจึงทำให้เสียเวลาในการเรียน เพราะจะต้องดำเนินการอย่างช้าๆ ดังนั้นเพื่อให้การสอนมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ข้าพเจ้าจึงได้มีการจัดทำสื่อการสอนขึ้น โดยการนำโปรแกรม Power point มาช่วยในการสร้างสื่อการสอนในเรื่องของ การสะท้อนและการเลื่อนขนาน เพื่อใช้ประกอบการสอนให้ผู้เรียนได้มีการเรียนที่ดีขึ้น และเข้าใจในบทเรียนมากยิ่งขึ้นและเพื่อที่จะทดสอบว่าสื่อการสอนที่จัดทำขึ้นมานั้นมีคุณภาพเพียงใดจึงได้มีการจัดทำวิจัยนี้ขึ้นมา

ทางเลือกในการแก้ปัญหา

1. สื่อการสอน เรื่องการเลื่อนขนานและการสะท้อน

2. เสริมแรงด้วยคำชมเชยระหว่างเรียน

3. เสริมแรงด้วยรางวัล

จุดมุ่งหมาย

1. เพื่อพัฒนาความสามารถในการเรียนวิชาคณิตศาสตร์

2. เพื่อแก้ปัญหานักเรียนไม่ตั้งใจเรียน

ตัวแปรที่ศึกษา

1. สื่อการสอน เรื่องการเลื่อนขนานและการสะท้อน

2. การเสริมแรงด้วยการให้คำชมเชยระหว่างเรียน

กรอบแนวคิดในการวิจัย

การวิจัยในครั้งนี้เป็นการศึกษาเพื่อพัฒนาความสามารถในการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 9 คน ผู้วิจัยได้จัดทำแบบฝึกทักษะเกี่ยวกับคณิตศาสตร์เรื่อง การเลื่อนขนานและการสะท้อน ที่มีความยากง่ายพอเหมาะและได้จัดทำสื่อการสอนเรื่อง การเลื่อนขนานและการสะท้อนใช้ประกอบการสอน และใช้การเสริมแรงด้วยการให้คำชมเชยระหว่างเรียนเพื่อพัฒนาความสามารถในการเรียนวิชาคณิตศาสตร์

ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ

1. ได้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ที่จะช่วยพัฒนาความสามารถในการเรียนวิชาคณิตศาสตร์

2. ผู้เรียนมีความเข้าใจในบทเรียนมากยิ่งขึ้น

3. ได้แนวทางในการกระตุ้นและเสริมแรงนักเรียนระหว่างเรียนวิชาคณิตศาสตร์

ขอบเขตของการวิจัย

ในการศึกษาวิจัยครั้งนี้เป็นการสร้างแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์โดยใช้กิจกรรมการเขียนคำตอบในการคำนวณเรื่องการเลื่อนขนานและการสะท้อน เพื่อพัฒนาความสามารถในการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 และได้กำหนดขอบเขตของการวิจัยไว้ดังนี้

1. ประชากร ประชากรที่ใช้ในการศึกษา คือนักเรียนโรงเรียนองค์การสวนยาง 3 ที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ในภาคเรียนที่ 1 ประจำปีการศึกษา 2560 จำนวน 9 คน

2. เนื้อหาที่ใช้ในการศึกษาเป็นเนื้อหาวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง การเลื่อนขนานและการสะท้อนตามหลักสูตรของระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

วิธีดำเนินการ

ระยะเวลาในการดำเนินการ

วัน เดือน ปี กิจกรรม หมายเหตุ

1 – 5 กันยายน 2560 - ศึกษาสภาพปัญหาและวิเคราะห์หาแนวทางแก้ปัญหา

8 – 9 กันยายน 2560 - เขียนเค้าโครงงานวิจัยในชั้นเรียน

- ศึกษาหลักสูตรเกี่ยวกับวิชาคณิตศาสตร์

- วิเคราะห์ผู้เรียนและวิเคราะห์เนื้อหา

10 – 14 กันยายน 2560 - ออกแบบเครื่องมือที่จะใช้ในงานวิจัย พร้อมทั้งจัดทำสื่อการสอน

เรื่องการเลื่อนขนานและการสะท้อน

15 – 16 กันยายน 2560 - ใช้สื่อการสอน power point เรื่องการเลื่อนขนาน

17 กันยายน 2560 - นักเรียนทำแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ ฉบับที่ 1 เรื่องการเลื่อนขนาน

18 – 19 กันยายน 2560 - ใช้สื่อการสอน power point เรื่องการสะท้อน

22 กันยายน 2560 - นักเรียนทำแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ฉบับที่ 2 เรื่อง การสะท้อน

23 – 25 กันยายน 2560 - เก็บรวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูล

29 – 30 กันยายน 2560 - สรุปและอภิปรายผล และจัดทำรูปเล่ม

เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย

1. แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ที่มีความยากง่ายพอเหมาะ

2. สื่อการสอนเรื่อง การเลื่อนขนานและการสะท้อน

3. การให้การเสริมแรงระหว่างเรียน

ขั้นตอนดำเนินการ

ในการดำเนินการศึกษาวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาความสามารถในการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยใช้กิจกรรมการเขียนคำตอบ แบบฝึกทักษะเกี่ยวกับเรื่อง การเลื่อนขนานและการสะท้อน ผู้วิจัยได้วางแผนการดำเนินการศึกษา สร้างแบบฝึกทักษะโดยยึดหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนองค์การสวนยาง 3 พร้อมจัดทำสื่อการสอน เรื่อง การเลื่อนขนานและการสะท้อนประกอบ และในการดำเนินการมีรายละเอียดเป็นขั้นตอนดังนี้

1. ขั้นวิเคราะห์

1.1 วิเคราะห์ผู้เรียน การวิเคราะห์ผู้เรียนได้กำหนดไว้ดังนี้

ประชากร คือนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560

โรงเรียนองค์การสวนยาง 3 จำนวน 9 คน

1.2 วิเคราะห์เนื้อหา ขั้นตอนดำเนินการมีดังนี้

เนื้อหาที่จะใช้สร้างแบบฝึกทักษะโดยใช้เนื้อหาคณิตศาสตร์ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยเนื้อหาในการทดลองคือเรื่อง การเลื่อนขนานและการสะท้อน

2. ขั้นออกแบบ

ขั้นออกแบบ แบบฝึกทักษะมีขั้นตอนดังนี้

แบบฝึกทักษะจำนวน 2 ฉบับ ฉบับละ 5 ข้อ เนื้อหาเกี่ยวกับการเลื่อนขนานและการสะท้อน

3. ขั้นดำเนินการ มีการดำเนินการดังนี้

3.1 ทำการทดลองกับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560

โรงเรียนองค์การสวนยาง 3 จำนวน 9 คน โดยให้นักเรียนทำแบบฝึกทักษะทั้ง 2 ฉบับ และทำการบันทึกคะแนน

3.2 การให้การเสริมแรงระหว่างเรียนโดยการให้คำชมเชยและกำลังใจแก่นักเรียน

4. ขั้นวิเคราะห์ข้อมูล

4.1 วิเคราะห์ข้อมูล

- วิเคราะห์ผลจากคะแนนที่ได้จากการทำแบบฝึกทักษะ ทั้ง 2 ฉบับ

4.2 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล

- การหาค่าเฉลี่ย

- การหาค่าร้อยละ

5. ผลการวิเคราะห์

จากการศึกษาวิจัยในชั้นเรียนครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ พัฒนาความสามารถในการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ โดยได้ศึกษาจากกลุ่มตัวอย่างซึ่งเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนองค์การสวนยาง 3 จำนวน 9 คน ผู้วิจัยได้ทำการทดลองโดยให้นักเรียนทำแบบฝึกหัด 2 ฉบับ ได้แก่ แบบฝึกหัดเรื่องการเลื่อนขนาน และ แบบฝึกหัดเรื่องการเลื่อนขนาน ให้นักเรียนทำสัปดาห์ละ 1 ฉบับ จากนั้นผู้วิจัยทำการบันทึกคะแนน โดยสามารถวิเคราะห์ผลได้ดังนี้

5.1 ผลการวิเคราะห์คะแนนแบบฝึกทักษะทั้ง 2 ฉบับ

ผลการวิเคราะห์ข้อมูล

ตารางแสดงผลคะแนนแบบฝึกหัดทั้ง 2 ฉบับ

ที่ ชื่อ-สกุลนักเรียนแบบฝึกหัดชุดที่ 1 เรื่องการเลื่อนขนานแบบฝึกหัดชุดที่ 2 เรื่องการสะท้อน

1 เด็กหญิงณัฐพร คงสง 15 15

2 เด็กหญิงอภิชญา สงเทพ 13 14

3 เด็กหญิงพัชรีภรณ์ บัวจีน 15 13

4 เด็กชายจักรพันธ์ ดิษฐราชา 12 14

5 เด็กหญิงขวัญพิชชา นพรัตน์ 13 15

6 เด็กชายภาณุพันธ์ ณะฤทธิ์ 14 15

7 เด็กชายณัฐวุฒิ เจ้ยทอง 12 14

8 เด็กหญิงกมลชนก มาลาเวช 11 13

9 เด็กหญิงธิดารัตน์ คงปินัง 13 14

รวม 118 127

เฉลี่ย 13.11 14.11

ร้อยละ 87.41 94.07

จากตาราง แสดงให้เห็นว่าหลังจากที่นักเรียนทั้ง 9 คน ได้ทำแบบฝึกทักษะทั้ง 2 ฉบับแล้ว นักเรียนแต่ละคนมีผลคะแนนแตกต่างกัน เมื่อเปรียบเทียบคะแนนของแต่ละฉบับ แต่ละคนแล้ว คะแนนการทำแบบฝึกทักษะทั้ง 2 ฉบับ โดยเฉลี่ยของนักเรียนทั้ง 9 คน ค่อนข้างสูง คือ 90.74 %

สรุปผลการศึกษาวิจัย

จากการศึกษาและวิเคราะห์คะแนนที่ได้จากผลการทำแบบฝึกทักษะในเรื่องเส้นขนานของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ทั้ง 9 คน นั้นแสดงให้เห็นว่า คะแนนเฉลี่ยของแต่ละคนสูงถึง 80 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป และคะแนนในแต่ละฉบับของนักเรียนก็เพิ่มขึ้นจากเดิม โดยเฉลี่ยแล้ว ฉบับที่ 1 เฉลี่ย 87.41 % ฉบับที่ 2 คือ 94.07 % ดังนั้นจะเห็นได้ว่าใช้สื่อประกอบกับการสอนพร้อมเสริมแรงด้วยการให้รางวัลและวาจานั้นสามารถทำให้ผู้เรียนนั้นมีพัฒนาการทางด้านการคิดคำนวณเพิ่มขึ้น

อภิปรายผลการศึกษา

จากการสร้างแบบฝึกทักษะเรื่องเส้นขนานและการสะท้อน เพื่อช่วยพัฒนาความสามารถในการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 9 คน ในครั้งนี้สามารถอภิปรายผลได้ดังนี้

1. พบว่าแบบฝึกทักษะการเลื่อนขนานและการสะท้อนที่ผู้วิจัยได้สร้างขึ้น สามารถช่วยพัฒนาความสามารถในการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ได้เป็นอย่างดี โดยดูได้จากผลคะแนนของนักเรียนซึ่งค่อนข้างสูง

2. จะเห็นได้ว่าการที่ครูให้การเสริมแรงด้วยการให้คำชมเชยทำให้นักเรียนมีกำลังใจและทำคะแนนได้ดีขึ้น

โพสต์โดย เอ็ม : [20 มิ.ย. 2561 เวลา 09:29 น.]
อ่าน [5213] ไอพี : 182.232.186.110
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 9,582 ครั้ง
ระวังคาเฟอีนในขนมเด็ก
ระวังคาเฟอีนในขนมเด็ก

เปิดอ่าน 7,554 ครั้ง
ทำอย่างไร?...ถึงจะทำให้คนในชาติเกิดค่านิยมไทย
ทำอย่างไร?...ถึงจะทำให้คนในชาติเกิดค่านิยมไทย

เปิดอ่าน 13,387 ครั้ง
หนอนคืบ
หนอนคืบ

เปิดอ่าน 14,825 ครั้ง
15 วิธีกับ 15 นาที ออกกำลังกายสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลา
15 วิธีกับ 15 นาที ออกกำลังกายสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลา

เปิดอ่าน 13,049 ครั้ง
การเลือกโต๊ะที่เป็นมงคล
การเลือกโต๊ะที่เป็นมงคล

เปิดอ่าน 13,557 ครั้ง
อยากรู้หรือไม่...คุณแก่เร็วไป หรือ อ่อนกว่าวัย ?
อยากรู้หรือไม่...คุณแก่เร็วไป หรือ อ่อนกว่าวัย ?

เปิดอ่าน 8,132 ครั้ง
"ฟุตบอล"...สอนอะไร
"ฟุตบอล"...สอนอะไร

เปิดอ่าน 23,936 ครั้ง
ประวัติจังหวัดอุบลราชธานี
ประวัติจังหวัดอุบลราชธานี

เปิดอ่าน 22,801 ครั้ง
เกณฑ์มาตรฐานอัตรากำลังในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
เกณฑ์มาตรฐานอัตรากำลังในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา

เปิดอ่าน 60,352 ครั้ง
พืชที่ใช้เป็นอาหาร
พืชที่ใช้เป็นอาหาร

เปิดอ่าน 30,488 ครั้ง
ลายมือของคนที่มีเงินทองอยู่ตลอดเวลาต้องมี "ก้นหอยมหาเศรษฐี"
ลายมือของคนที่มีเงินทองอยู่ตลอดเวลาต้องมี "ก้นหอยมหาเศรษฐี"

เปิดอ่าน 17,135 ครั้ง
งานประจำ 7 ประการของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
งานประจำ 7 ประการของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน

เปิดอ่าน 19,195 ครั้ง
หลักการใช้ Future Perfect Continuous Tense
หลักการใช้ Future Perfect Continuous Tense

เปิดอ่าน 31,319 ครั้ง
สำนวนอังกฤษที่จำเป็นในการจัดการโปรเจ็ค
สำนวนอังกฤษที่จำเป็นในการจัดการโปรเจ็ค

เปิดอ่าน 7,820 ครั้ง
รื้อระบบ - แก้ยกแผงดันมหาวิทยาลัยไทยสู่ระดับโลก
รื้อระบบ - แก้ยกแผงดันมหาวิทยาลัยไทยสู่ระดับโลก

เปิดอ่าน 27,789 ครั้ง
อย่าด่วนตัดสินอะไรเร็วเกินไป สิ่งที่คุณเห็นอาจไม่ใช่สิ่งที่คุณคิด!
อย่าด่วนตัดสินอะไรเร็วเกินไป สิ่งที่คุณเห็นอาจไม่ใช่สิ่งที่คุณคิด!
เปิดอ่าน 21,860 ครั้ง
3 steps พุงยุบใน 2 weeks
3 steps พุงยุบใน 2 weeks
เปิดอ่าน 26,010 ครั้ง
ความสำคัญของการศึกษาปฐมวัย
ความสำคัญของการศึกษาปฐมวัย
เปิดอ่าน 14,049 ครั้ง
"กาบา (GABA)" สารอาหารในเมล็ดข้าว
"กาบา (GABA)" สารอาหารในเมล็ดข้าว
เปิดอ่าน 21,423 ครั้ง
การวัดความเร็วและทิศทางของลม
การวัดความเร็วและทิศทางของลม

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ