ประสิทธิภาพการใช้เอกสารประกอบการเรียน ชุดพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์เพื่อกลุ่มสาระการเรียนรู้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี (คอมพิวเตอร์)ของนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 2
ผู้รายงาน นางสาวสิตา ดัชถุยาวัตร
ปีการศึกษา 2560
การวิจัยครั้งนี้ มุ่งศึกษาประสิทธิภาพการใช้เอกสารประกอบการเรียน ชุดพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์เพื่อกลุ่มสาระการเรียนรู้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี (คอมพิวเตอร์) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2ที่จัดทำขึ้น ตามเกณฑ์ 80 / 80 และเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านตรึม (ตรึมวิทยานุเคราะห์) สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 1 ก่อนเรียนและหลังเรียนจากประสิทธิภาพการใช้ เอกสารประกอบการเรียน ชุดพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์เพื่อกลุ่มสาระการเรียนรู้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี (คอมพิวเตอร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2
กลุ่มเป้าหมาย คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านตรึม (ตรึมวิทยานุเคราะห์) สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 1 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 29 คน จำแนกเป็น นักเรียน ชาย จำนวน 9 คน นักเรียนหญิง จำนวน 20 คน
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้ประสิทธิภาพการใช้เอกสารประกอบการเรียน ชุดพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์เพื่อกลุ่มสาระการเรียนรู้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี (คอมพิวเตอร์) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 (นักเรียนเรียนร่วม) จำนวน 8 เล่ม คือ แบบทดสอบ ก่อนเรียน จำนวน 20 ข้อ และแบบทดสอบ หลังเรียน จำนวน 20 ข้อ
ผลการศึกษา พบว่า
1. เอกสารประกอบการเรียน ชุดพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์เพื่อกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (คอมพิวเตอร์) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 8 เล่มมีประสิทธิภาพโดยภาพรวม เท่ากับ 85.22/86.84 ซึ่ง สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน ที่กำหนดไว้ คือ 80/80 ทุกเล่ม
2. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีคะแนนสอบหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนโดยใช้หนังสือ เอกสารประกอบการเรียน ชุดพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์เพื่อกลุ่มสาระการเรียนรู้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี (คอมพิวเตอร์) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยภาพรวมมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .01
ผลที่ปรากฏ เช่นนี้ เพราะนักเรียนได้เรียนรู้จากเอกสารประกอบการเรียน ชุดพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์เพื่อกลุ่มสาระการเรียนรู้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี (คอมพิวเตอร์) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 8 เล่ม ซึ่งผู้วิจัยจัดทำขึ้น พร้อมจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ จึงส่งผลให้ผู้เรียนมีพฤติกรรมการเรียนที่ดีขึ้น ปฏิบัติตนที่ถูกต้อง ชัดเจน และยั่งยืน เพราะผู้เรียนเข้าใจตนเองได้ดีนวัตกรรมประกอบการจัดกิจกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพจริง