ผลงาน รายงานการพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือ เรื่อง พระพุทธศาสนาน่ารู้
กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
ผู้วิจัย นางสาวณัชฉรียา ชำนาญพันธ์ ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ
โรงเรียนวิทยานุกูลนารี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 40
ปีที่รายงาน 2560
บทคัดย่อ
การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือ เรื่อง พระพุทธศาสนาน่ารู้ กลุ่มสาระ การเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีวัตถุประสงค์การศึกษา คือ 1) เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือ เรื่อง พระพุทธศาสนาน่ารู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือเรื่อง พระพุทธศาสนาน่ารู้ กลุ่มสาระ การเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ก่อนและหลังการเรียนรู้ และ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อการเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรม การเรียนรู้แบบร่วมมือ เรื่อง พระพุทธศาสนาน่ารู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
ประชากร ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนวิทยานุกูลนารี อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 40 ในภาคเรียนที่ 1
ปีการศึกษา 2560 จำนวน 365 คน กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/7 โรงเรียนวิทยานุกูลนารี อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 40 ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 37 คน ได้มาโดยวิธีการสุ่มอย่างง่าย (Simple random sampling)
เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา คือ 1) การจัดการเรียนการสอนชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือ เรื่อง พระพุทธศาสนาน่ารู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีจำนวน 7 ชุดกิจกรรม 2) แบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง พระพุทธศาสนาน่ารู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เป็นแบบทดสอบแบบเลือกตอบชนิด 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ และ 3) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือ เรื่อง พระพุทธศาสนาน่ารู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลในการหาประสิทธิภาพ (E1/ E2) ของชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ได้แก่ ค่าคะแนนเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) การหาค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบโดยใช้สูตรของ Lovett แบบสอบถามความพึงพอใจตรวจสอบความเหมาะสมของเนื้อหาโดยการหาค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC)
ผลการวิจัยปรากฏว่า
1. การสร้างและหาประสิทธิภาพของความเหมาะสมขององค์ประกอบต่าง ๆ ของ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือ เรื่อง พระพุทธศาสนาน่ารู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีค่าเฉลี่ยคะแนนการพิจารณาความเหมาะสมของผู้เชี่ยวชาญอยู่ในระดับมากที่สุด ( =4.51, S.D.=0.24 ) ผลการหาประสิทธิภาพชุดกิจกรรมการเรียนรู้ มีประสิทธิภาพ E1 / E2 เท่ากับ 85.09/83.96 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ผู้ศึกษาค้นคว้าตั้งไว้ คือ 80/80
2. การทดลองใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือ เรื่อง พระพุทธศาสนาน่ารู้ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือ เรื่อง พระพุทธศาสนาน่ารู้ พบว่า มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. การประเมินผลความพึงพอใจของนักเรียน ได้ทำการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการสอนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือ เรื่อง พระพุทธศาสนาน่ารู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม โดยรวมอยู่ในระดับมาก ( = 4.41) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด คือ กิจกรรมการเรียนสนุกและน่าสนใจ
( = 4.63) ครูสามารถประยุกต์สิ่งที่สอนเข้ากับสภาพสังคมและสิ่งแวดล้อม( = 4.62) นักเรียนทราบจุดประสงค์การเรียนรู้ชัดเจน( = 4.52) และนักเรียนนำความรู้จากวิชานี้ไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ ( = 4.52)