พิมพ์ณิชาก์ พร้อมธนรัตน์. (2560). การศึกษาผลการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการ
สืบเสาะหาความรู้แบบ 5E เรื่อง การสืบพันธุ์และการเจริญเติบโตของสัตว์ เพื่อพัฒนา
ผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียน รายวิชาชีววิทยา (ว30241) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4.
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาชีววิทยา 1 (ว30241) เรื่อง การสืบพันธุ์และการเจริญเติบโตของสัตว์ โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้แบบ 5E ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 2) เพื่อพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการ
สืบเสาะหาความรู้แบบ 5E เรื่อง การสืบพันธุ์และการเจริญเติบโตของสัตว์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่เรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้แบบ 5E
เรื่อง การสืบพันธุ์และการเจริญเติบโตของสัตว์ ก่อนเรียนและหลังเรียน 4) เพื่อศึกษาค่าดัชนีประสิทธิผลของชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้แบบ 5E เรื่อง การสืบพันธุ์และการเจริญเติบโตของสัตว์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 5) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้แบบ 5E เรื่อง การสืบพันธุ์และการเจริญเติบโตของสัตว์
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ดำเนินการโดยใช้แบบแผนการศึกษาแบบกลุ่มเดียวทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน กลุ่มตัวอย่างได้มาจากการสุ่มแบบเฉพาะเจาะจง เป็นนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 29 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วย แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง การสืบพันธุ์และการเจริญเติบโตของสัตว์ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 5E เรื่อง การสืบพันธุ์และการเจริญเติบโตของสัตว์ และแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาชีววิทยา 1 (ว30241) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ ค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ ค่าดัชนีความสอดคล้อง ค่าอำนาจจำแนก
ค่าความยากง่าย วิเคราะห์หาความเชื่อมั่น และการทดสอบ ค่า t-test for dependent
ผลการศึกษาพบว่า
1) การพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาชีววิทยา 1 (ว30241) เรื่อง การสืบพันธุ์และการเจริญเติบโตของสัตว์ โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้แบบ 5E
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โดยจัดกระบวนการเรียนการสอนตามรูปแบบกระบวนการสืบเสาะหาความรู้แบบ 5E ทดลองใช้กับกลุ่มตัวอย่างและประเมินประสิทธิภาพของแผนการจัดการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ 84.16/89.43 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด
2) การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้แบบ 5E
เรื่อง การสืบพันธุ์และการเจริญเติบโตของสัตว์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 หลังจากการจัดการเรียนการสอนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้แบบ 5E เรื่อง การสืบพันธุ์และการเจริญเติบโตของสัตว์ สูงกว่าก่อนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ประสิทธิภาพ 84.16/89.43 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด
3) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่เรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้แบบ 5E เรื่อง การสืบพันธุ์และการเจริญเติบโตของสัตว์ พบว่า คะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนมีค่าเฉลี่ย 53.72 คิดเป็นร้อยละ 89.43 สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดร้อยละ 80 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4) ค่าดัชนีประสิทธิผลของชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้แบบ 5E เรื่อง การสืบพันธุ์และการเจริญเติบโตของสัตว์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 พบว่า ค่าดัชนีประสิทธิผลของการเรียนรู้ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 รายวิชาชีววิทยา (ว30241) เรื่อง การสืบพันธุ์และการเจริญเติบโตของสัตว์ โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้แบบ 5E มีค่าเท่ากับ 0.7644 แสดงว่านักเรียนที่เรียนรู้ด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้แบบ 5E มีความก้าวหน้าในการเรียนคิดเป็นร้อยละ 76.44
5) ผลของความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้แบบ 5E เรื่อง การสืบพันธุ์และการเจริญเติบโตของสัตว์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 5E เรื่อง การสืบพันธุ์และการเจริญเติบโตของสัตว์ วิชาชีววิทยา (ว30241)
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 29 คน โดยรวมอยู่ในระดับมาก ( = 4.34, S.D.= 0.70) ด้านที่มีผลการประเมินอยู่ในระดับมากที่สุด คือด้านกิจกรรมการเรียนการสอน เฉลี่ยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
( = 4.61, S.D.= 0.60) รองลงมาคือ ด้านกิจกรรมการเรียน อยู่ในระดับมาก ( = 4.40, S.D.= 0.63) และด้านที่มีผลการประเมินน้อยที่สุดคือ ด้านเนื้อหา อยู่ในระดับมาก ( = 4.17, S.D.= 0.73) ตามลำดับ