ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
ประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการเรียน วิชาวิทยาศาสตร์ 3 ว 22101 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2โรงเรียนสตรีทุ่งสงสำนักงานเขตพื้น

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการเรียน วิชาวิทยาศาสตร์ 3 ว 22101 ตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 2) ประเมินดัชนีประสิทธิผลของเอกสารประกอบการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ 3 ว 22101 และ 3) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนสตรีทุ่งสงที่มีต่อเอกสารประกอบการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ 3 ว 22101 ทำการทดลองกับนักเรียนกลุ่มตัวอย่าง จากโรงเรียนสตรีทุ่งสง อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช จำนวน 60 คนประจำภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 การวิเคราะห์ข้อมูล การหาประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการเรียน วิชาวิทยาศาสตร์ 3 ว22101 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยการหาประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 ประเมินดัชนีประสิทธิผลของเอกสาร ประกอบการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ 3 ว 22101 โดยการหาค่าดัชนีประสิทธิผล (E.I.)ตั้งแต่ 0.50 ขึ้นไปและใช้ค่าคะแนนเฉลี่ย (X) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) วิเคราะห์ความพึงพอใจของนักเรียน กลุ่มตัวอย่างที่มีต่อเอกสารประกอบการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ 3 ว 22101

ผลการวิจัยพบว่า

1. ประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการเรียน วิชาวิทยาศาสตร์ 3 ว 22101 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนสตรีทุ่งสง ได้ประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 คือ เรื่องที่ 1 ระบบย่อยอาหารมีประสิทธิภาพ 91.21/93.97 เรื่องที่ 2 ระบบหมุนเวียนเลือด มีประสิทธิภาพ 87.14/89.94 เรื่องที่ 3 ระบบหายใจมีประสิทธิภาพ 88.20/89.16 เรื่องที่ 4 ระบบขับถ่ายมีประสิทธิภาพ 84.08/85.11 เรื่องที่ 5 ระบบสืบพันธุ์มีประสิทธิภาพ 84.47/88.88 เรื่องที่ 6 ระบบประสาทมีประสิทธิภาพ 87.41/89.33

2. ดัชนีประสิทธิผลของเอกสารประกอบการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ 3 ว 22101 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนสตรีทุ่งสง ได้ดัชนีประสิทธิผล (E.I.) ตั้งแต่ 0.50 ขึ้นไป คือ เรื่องที่ 1 ระบบย่อยอาหารมีประสิทธิผลเท่ากับ 0.8687 แสดงว่านักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้น 0.8687 คิดเป็นร้อยละ 86.87 เรื่องที่ 2 ระบบหมุนเวียนเลือดมีประสิทธิผลเท่ากับ 0.7240 แสดงว่านักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้น 0.7240 คิดเป็นร้อยละ 72.40 เรื่องที่ 3 ระบบหายใจมีประสิทธิผลเท่ากับ 0.7837 แสดงว่านักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้น 0.7837 คิดเป็นร้อยละ 78.37 เรื่องที่ 4 ระบบขับถ่าย มีประสิทธิผลเท่ากับ 0.8772 แสดงว่านักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้น 0.8772 คิดเป็นร้อยละ 87.72 เรื่องที่ 5 ระบบสืบพันธุ์มีประสิทธิผลเท่ากับ 0.7577 แสดงว่านักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้น 0.7577 คิดเป็นร้อยละ 75.77 เรื่องที่ 6 ระบบประสาทมีประสิทธิผลเท่ากับ 0.8565 แสดงว่านักเรียน มีความรู้เพิ่มขึ้น 0.8565 คิดเป็นร้อยละ 85.65

3. การประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อเอกสารประกอบการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์3 ว 22101 พบว่านักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีความพึงพอใจที่ดีในด้านเนื้อหาวิชา ด้านสำนวนภาษาที่ใช้ ด้านรูปแบบการจัดเนื้อหา และการจัดรูปเล่ม แบบทดสอบ และด้านประโยชน์และ คุณค่าของเอกสาร

โพสต์โดย นางศุภนุช ศรีจันทร์ : [18 มิ.ย. 2561 เวลา 08:11 น.]
อ่าน [5100] ไอพี : 119.42.86.179
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 16,674 ครั้ง
ไม่ชอบออกกำลังกาย ก็แข็งแรงได้ด้วย 10 วิธีนี้
ไม่ชอบออกกำลังกาย ก็แข็งแรงได้ด้วย 10 วิธีนี้

เปิดอ่าน 16,083 ครั้ง
มาทำกายบริหารให้สมองกันเถอะ
มาทำกายบริหารให้สมองกันเถอะ

เปิดอ่าน 52,181 ครั้ง
คำว่า "สวัสดี" เริ่มใช้อย่างเป็นทางการในไทย เมื่อวันที่ 22 ม.ค. พ.ศ.2486
คำว่า "สวัสดี" เริ่มใช้อย่างเป็นทางการในไทย เมื่อวันที่ 22 ม.ค. พ.ศ.2486

เปิดอ่าน 37,273 ครั้ง
ปรากฏการณ์ Earth Shine คืออะไร
ปรากฏการณ์ Earth Shine คืออะไร

เปิดอ่าน 26,202 ครั้ง
แมลงมีพิษกัดต่อย
แมลงมีพิษกัดต่อย

เปิดอ่าน 10,727 ครั้ง
สูตรสำเร็จเพิ่มความฉลาด
สูตรสำเร็จเพิ่มความฉลาด

เปิดอ่าน 45,536 ครั้ง
โอลิมปิก : ประวัติกีฬาโอลิมปิก
โอลิมปิก : ประวัติกีฬาโอลิมปิก

เปิดอ่าน 20,097 ครั้ง
แนวทางการพัฒนาทักษะการค้นคว้า และศึกษาด้วยตนเองเพื่อรองรับ AEC : 2558
แนวทางการพัฒนาทักษะการค้นคว้า และศึกษาด้วยตนเองเพื่อรองรับ AEC : 2558

เปิดอ่าน 15,657 ครั้ง
ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 1 กรกฎาคม 2553
ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 1 กรกฎาคม 2553

เปิดอ่าน 11,041 ครั้ง
ทำไมหนอ ผู้หญิงถึงชอบรองเท้าส้นสูง
ทำไมหนอ ผู้หญิงถึงชอบรองเท้าส้นสูง

เปิดอ่าน 9,775 ครั้ง
ต้านเหงือกติดเชื้อด้วยการกินโฮลวีท
ต้านเหงือกติดเชื้อด้วยการกินโฮลวีท

เปิดอ่าน 23,275 ครั้ง
คลิปครูเต้น-รวมเพลงเด็กในตำนาน ของ ร.ร.บางมดฯ
คลิปครูเต้น-รวมเพลงเด็กในตำนาน ของ ร.ร.บางมดฯ

เปิดอ่าน 10,345 ครั้ง
IE8 ครองตำแหน่งบราวเซอร์ที่มีผู้ใช้มากที่สุด
IE8 ครองตำแหน่งบราวเซอร์ที่มีผู้ใช้มากที่สุด

เปิดอ่าน 12,149 ครั้ง
ทำอย่างไรให้ลูกมีความจำดี : ดร.สุพาพร เทพยสุวรรณ
ทำอย่างไรให้ลูกมีความจำดี : ดร.สุพาพร เทพยสุวรรณ

เปิดอ่าน 26,216 ครั้ง
ประวัติฟุตบอลโลก (World Cup)
ประวัติฟุตบอลโลก (World Cup)

เปิดอ่าน 15,121 ครั้ง
เคล็ดลับในการเริ่มบทสนทนาภาษาอังกฤษที่น่าสนใจกับเจ้าของภาษาที่ใครๆ ก็ทำได้
เคล็ดลับในการเริ่มบทสนทนาภาษาอังกฤษที่น่าสนใจกับเจ้าของภาษาที่ใครๆ ก็ทำได้
เปิดอ่าน 10,741 ครั้ง
คิดยกกำลังสอง: มองแดนซามูไร…แก้ไขปัญหาโรงเรียนขนาดเล็ก
คิดยกกำลังสอง: มองแดนซามูไร…แก้ไขปัญหาโรงเรียนขนาดเล็ก
เปิดอ่าน 10,399 ครั้ง
แนวทางการดำเนินงาน โครงการพัฒนาเยาวชนสู่การเป็นนักประดิษฐ์ พ.ศ.2556
แนวทางการดำเนินงาน โครงการพัฒนาเยาวชนสู่การเป็นนักประดิษฐ์ พ.ศ.2556
เปิดอ่าน 14,815 ครั้ง
ดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
ดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
เปิดอ่าน 40,688 ครั้ง
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 11 การนับประตู
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 11 การนับประตู

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ