ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานการพัฒนาชุดฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การบวกและการลบจำนวนที่มีผลลัพธ์และตัวตั้งไม่เกิน 20 โดยใช้วิธีการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิคแบบกลุ่มช่วยร

ชื่อเรื่อง รายงานการพัฒนาชุดฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การบวกและการลบ

จำนวนที่มีผลลัพธ์และตัวตั้งไม่เกิน 20 โดยใช้วิธีการเรียนรู้แบบร่วมมือ

เทคนิคแบบกลุ่มช่วยรายบุคคล(TAI) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1

ผู้วิจัย นริศรา ทองมาก

ตำแหน่ง ครูชำนาญการ โรงเรียนบ้านยางบ่อภิรมย์ อำเภอชุมพลบุรี

จังหวัดสุรินทร์

ปีการศึกษา 2560

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้ เป็นการรายงานการพัฒนาชุดฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การบวกและการลบจำนวนที่มีผลลัพธ์และตัวตั้งไม่เกิน 20 โดยใช้วิธีการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิคแบบกลุ่มช่วยรายบุคคล(TAI) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มีวัตถุประสงค์ในการวิจัยเพื่อ 1) เพื่อหาประสิทธิภาพชุดฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การบวกและการลบจำนวนที่มีผลลัพธ์และตัวตั้งไม่เกิน 20 ด้วยชุดฝึกทักษะคณิตศาสตร์ โดยใช้วิธีเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิคแบบกลุ่มช่วยรายบุคคล(TAI) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้วยชุดฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การบวกและการลบจำนวนที่มีผลลัพธ์และตัวตั้งไม่เกิน 20 โดยใช้วิธีการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิคแบบกลุ่มช่วยรายบุคคล(TAI) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ก่อนเรียนและหลังเรียน 3) เพื่อหาค่าดัชนีประสิทธิผลของชุดฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การบวกและการลบจำนวนที่มีผลลัพธ์และตัวตั้งไม่เกิน 20 โดยใช้วิธีการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิคแบบกลุ่มช่วยรายบุคคล(TAI) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 4) เพื่อศึกษาความคงทนในการเรียนรู้ของนักเรียน เรื่องการบวกและการลบจำนวนที่มีผลลัพธ์และตัวตั้งไม่เกิน 20 ที่เรียนด้วยชุดฝึกทักษะคณิตศาสตร์ โดยใช้วิธีการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิคแบบกลุ่มช่วยรายบุคคล(TAI) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านดู่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 1 ปีการศึกษา 2560 จำนวนนักเรียน 24 คน โดยการสุ่มแบบเฉพาะเจาะจง(Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้ประกอบด้วย ชุดฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การบวกและการลบจำนวนที่มีผลลัพธ์และตัวตั้งไม่เกิน 20 โดยใช้วิธีการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิคแบบกลุ่มช่วยรายบุคคล(TAI) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 9 ชุด ระดับคะแนนเฉลี่ยการประเมินของชุดฝึกทักษะ ทั้ง 9 ชุด เท่ากับ 4.87 แผนการจัดการเรียนรู้ประกอบการใช้ชุดฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การคูณ โดยใช้วิธีการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิคแบบกลุ่มช่วยรายบุคคล(TAI) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 9 แผน แผนละ 2 ชั่วโมง รวม 18 ชั่วโมง ระดับคะแนนเฉลี่ยการประเมินของแผนการจัดการเรียนรู้ ทั้ง 9 แผน เท่ากับ 4.85 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง การบวกและการลบจำนวนที่มีผลลัพธ์และตัวตั้งไม่เกิน 20 โดยใช้วิธีการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิคแบบกลุ่มช่วยรายบุคคล(TAI) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 30 ข้อ ซึ่งมีค่าความยากง่าย (P) ตั้งแต่ 0.45 - 0.81 ค่าอำนาจจำแนก (r) ตั้งแต่ 0.20 – 0.67 ค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.93 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการทดสอบตามวิธี Wilcoxon Signed Rank test

ผลการวิจัยพบว่า

1. ประสิทธิภาพของชุดฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การบวกและการลบจำนวนที่มีผลลัพธ์และตัวตั้งไม่เกิน 20 โดยใช้วิธีการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิคแบบกลุ่มช่วยรายบุคคล(TAI) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มีประสิทธิภาพ ( E1/E2 ) เท่ากับ 88.29/91.67 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งได้คือ 75/75

2. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่เรียนรู้โดยใช้ชุดฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การบวกและการลบจำนวนที่มีผลลัพธ์และตัวตั้งไม่เกิน 20 โดยใช้วิธีการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิคแบบกลุ่มช่วยรายบุคคล(TAI) มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้

3. ค่าดัชนีประสิทธิผลของชุดฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การบวกและการลบจำนวนที่มีผลลัพธ์และตัวตั้งไม่เกิน 20 โดยใช้วิธีการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิคแบบกลุ่มช่วยรายบุคคล(TAI) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มีค่าเท่ากับ 0.8790 ซึ่งแสดงว่านักเรียนมีความก้าวหน้าในการเรียนเพิ่มขึ้น 0.8790 หรือคิดเป็นร้อยละ 87.90

4. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนด้วยชุดฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การบวกและการลบจำนวนที่มีผลลัพธ์และตัวตั้งไม่เกิน 20 โดยใช้วิธีการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิคแบบกลุ่มช่วยรายบุคคล(TAI) กับเมื่อหลังเรียนระยะเวลาผ่านไป 14 วันไม่แตกต่างกัน แสดงว่าชุดฝึกทักษะคณิตศาสตร์ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้นทำให้นักเรียนมีความคงทนในการเรียนรู้

โพสต์โดย นริศรา มากมี : [16 มิ.ย. 2561 เวลา 14:22 น.]
อ่าน [3561] ไอพี : 171.97.9.170
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 11,682 ครั้ง
รัดผมตึง...ระวังโรคเครียด
รัดผมตึง...ระวังโรคเครียด

เปิดอ่าน 8,524 ครั้ง
อะโดบีเผยเอเชีย-แปซิฟิกใช้อินเทอร์เน็ตผ่านสมาร์ทโฟนเติบโตสูงสุดในโลก
อะโดบีเผยเอเชีย-แปซิฟิกใช้อินเทอร์เน็ตผ่านสมาร์ทโฟนเติบโตสูงสุดในโลก

เปิดอ่าน 38,906 ครั้ง
คำศัพท์ภาษาอังกฤษหมวดชื่อเดือนทั้ง 12 เดือน
คำศัพท์ภาษาอังกฤษหมวดชื่อเดือนทั้ง 12 เดือน

เปิดอ่าน 6,146 ครั้ง
เอกสาร ก้าวแรกการจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐาน Project Based Learnning PBL
เอกสาร ก้าวแรกการจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐาน Project Based Learnning PBL

เปิดอ่าน 12,009 ครั้ง
8 นาที กับโยคะบนที่นอน
8 นาที กับโยคะบนที่นอน

เปิดอ่าน 12,952 ครั้ง
เราจะรู้ได้อย่างไรว่าสายตาสั้น
เราจะรู้ได้อย่างไรว่าสายตาสั้น

เปิดอ่าน 12,751 ครั้ง
ข้อดี เคี้ยวช้าลง เสริมสุขภาพให้ดีขึ้นได้
ข้อดี เคี้ยวช้าลง เสริมสุขภาพให้ดีขึ้นได้

เปิดอ่าน 19,484 ครั้ง
เคล็ดลับการเลือกสีผมจากสีผิว
เคล็ดลับการเลือกสีผมจากสีผิว

เปิดอ่าน 12,341 ครั้ง
7 เคล็ดลับ รักษาความจำยืนยาว
7 เคล็ดลับ รักษาความจำยืนยาว

เปิดอ่าน 37,767 ครั้ง
สูตรลับการคูณแม่ 9 โดยใช้นิ้วมือทั้ง 10 นิ้ว(สุดยอดครับ)
สูตรลับการคูณแม่ 9 โดยใช้นิ้วมือทั้ง 10 นิ้ว(สุดยอดครับ)

เปิดอ่าน 14,571 ครั้ง
ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ อันตรายที่อย่ามองข้าม
ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ อันตรายที่อย่ามองข้าม

เปิดอ่าน 11,291 ครั้ง
iOS 6 มีอะไรใหม่บ้าง?
iOS 6 มีอะไรใหม่บ้าง?

เปิดอ่าน 9,905 ครั้ง
วัคซีนไข้หวัดใหญ่ ไขข้อสงสัยทุกคำถามที่อยากรู้
วัคซีนไข้หวัดใหญ่ ไขข้อสงสัยทุกคำถามที่อยากรู้

เปิดอ่าน 20,109 ครั้ง
10 ธุรกิจลงทุนจิ๊บๆ แค่ใช้ทักษะที่มีในตัวก็ทำเงินได้
10 ธุรกิจลงทุนจิ๊บๆ แค่ใช้ทักษะที่มีในตัวก็ทำเงินได้

เปิดอ่าน 3,012 ครั้ง
แนะนำสถานที่ทำบุญตามวันเกิด รับวันพระใหญ่ "วิสาขบูชา"
แนะนำสถานที่ทำบุญตามวันเกิด รับวันพระใหญ่ "วิสาขบูชา"

เปิดอ่าน 31,173 ครั้ง
พายุไต้ฝุ่น
พายุไต้ฝุ่น
เปิดอ่าน 15,094 ครั้ง
แฉช่องโหว่ Windows 7
แฉช่องโหว่ Windows 7
เปิดอ่าน 29,118 ครั้ง
หลักสูตรการสอบภาค ข ครูผู้ช่วย สพฐ. ตามหนังสือ ว14/2558
หลักสูตรการสอบภาค ข ครูผู้ช่วย สพฐ. ตามหนังสือ ว14/2558
เปิดอ่าน 14,544 ครั้ง
ยิ่งเดิน ยิ่งดีต่อสุขภาพ
ยิ่งเดิน ยิ่งดีต่อสุขภาพ
เปิดอ่าน 657 ครั้ง
การเรียนการสอนแบบ e-Learning
การเรียนการสอนแบบ e-Learning

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ