ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาการจัดการเรียนรู้ แบบร่วมมือกันเรียนรู้ ด้วยเทคนิค STAD โดยใช้แบบฝึกทักษะวิชาภาษาไทย เรื่อง การอ่าน การเขียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

ชื่อเรื่อง การพัฒนาการจัดการเรียนรู้ แบบร่วมมือกันเรียนรู้ ด้วยเทคนิค STAD โดยใช้แบบฝึกทักษะ

วิชาภาษาไทย เรื่อง การอ่าน การเขียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

ผู้วิจัย นายสิรวิชญ์ สายสินธุ์ ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ

โรงเรียน โรงเรียนโนนปลาขาวราษฏร์บูรณะ ปีที่พิมพ์ 2561

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้ เป็นการพัฒนาการพัฒนาการจัดการเรียนรู้ แบบร่วมมือกันเรียนรู้ ด้วยเทคนิค STAD โดยใช้แบบฝึกทักษะวิชาภาษาไทย เรื่อง การอ่าน การเขียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีวัตถุประสงค์ของการวิจัย 1) เพื่อพัฒนาการจัดการเรียนรู้ แบบร่วมมือกันเรียนรู้ ด้วยเทคนิค STAD โดยใช้แบบฝึกทักษะภาษาไทย เรื่อง การอ่าน การเขียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีประสิทธิภาพ 80/80 2) เพื่อหาค่าดัชนีประสิทธิผลของการจัดการเรียนรู้ แบบร่วมมือกันเรียนรู้ ด้วยเทคนิค STAD โดยใช้แบบฝึกทักษะวิชาภาษาไทย เรื่อง การอ่าน การเขียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนจากการเรียนรู้ แบบร่วมมือกันเรียนรู้ ด้วยเทคนิค STAD โดยใช้แบบฝึกทักษะวิชาภาษาไทย เรื่อง การอ่าน การเขียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ แบบร่วมมือกันเรียนรู้ ด้วยเทคนิค STAD โดยใช้แบบฝึกทักษะวิชาภาษาไทย เรื่อง การอ่าน การเขียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนโนนปลาขาวราษฏร์บูรณะ และโรงเรียนดงน้อยวิทยา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 1 จำนวน 14 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่1) แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 12 แผน 2) แบบฝึกทักษะ จำนวน 12 ชุด 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน มีค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.27–0.67 และค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.81 4) แบบวัดความ พึงพอใจของนักเรียน จำนวน 13 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.79 ถึง 1.26 มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.67 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และเปรียบเทียบคะแนนทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน โดยใช้ t-test

ผลการวิจัยพบว่า 1) การจัดการเรียนรู้ แบบร่วมมือกันเรียนรู้ ด้วยเทคนิค STAD โดยใช้แบบฝึกทักษะวิชาภาษาไทย เรื่อง การอ่าน การเขียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพ 83.93/83.81 ซึ่ง สูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ 2) ค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ .7718 ทำให้นักเรียนมีความรู้ความสามารถในการเรียนรู้ เรื่อง การอ่าน การเขียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เพิ่มขึ้นหลังจากการเรียนรู้ แบบร่วมมือกันเรียนรู้ ด้วยเทคนิค STAD โดยใช้แบบฝึกทักษะวิชาภาษาไทย เรื่อง การอ่าน การเขียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 คิดเป็นร้อยละ 77.18 3) นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และ 4) นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้ แบบร่วมมือกันเรียนรู้ ด้วยเทคนิค STAD โดยใช้แบบฝึกทักษะภาษาไทย เรื่อง การอ่าน การเขียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยรวมอยู่ในระดับมาก ทุกข้อ

โดยสรุป การพัฒนาการจัดการเรียนรู้ แบบร่วมมือกันเรียนรู้ ด้วยเทคนิค STAD โดยใช้แบบฝึก

ทักษะวิชาภาษาไทย เรื่อง การอ่าน การเขียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้และนักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้ แบบร่วมมือกันเรียนรู้ ด้วยเทคนิค STAD โดยใช้แบบฝึกทักษะวิชาภาษาไทย เรื่อง การอ่าน การเขียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยรวมอยู่ในระดับมาก

โพสต์โดย ครูธรรม : [16 มิ.ย. 2561 เวลา 11:50 น.]
อ่าน [3181] ไอพี : 124.121.196.214
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 11,123 ครั้ง
กูเกิล เผยอันดับคำค้นสุดฮิตของไทย ประจำปี 2012
กูเกิล เผยอันดับคำค้นสุดฮิตของไทย ประจำปี 2012

เปิดอ่าน 137,623 ครั้ง
การส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน
การส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน

เปิดอ่าน 11,100 ครั้ง
5 ข้อง่าย ๆ ที่ใคร ๆ ทำก็หายเครียด
5 ข้อง่าย ๆ ที่ใคร ๆ ทำก็หายเครียด

เปิดอ่าน 44,283 ครั้ง
การจัดการศึกษาที่หลากหลาย เพื่อแสวงหาแนวทาง ‘ปฏิรูป’ ผู้เขียน ดร.พีระพงษ์ สิทธิอมร
การจัดการศึกษาที่หลากหลาย เพื่อแสวงหาแนวทาง ‘ปฏิรูป’ ผู้เขียน ดร.พีระพงษ์ สิทธิอมร

เปิดอ่าน 4,894 ครั้ง
แผนปฏิบัติราชการระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2566 – 2570) ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
แผนปฏิบัติราชการระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2566 – 2570) ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

เปิดอ่าน 32,097 ครั้ง
ประโยชน์ของมัลติมีเดีย
ประโยชน์ของมัลติมีเดีย

เปิดอ่าน 16,667 ครั้ง
ชาวเน็ตร่วมพิสูจน์! คลิปพญานาคโผล่เล่นน้ำสกลนคร...จริงหรือ?
ชาวเน็ตร่วมพิสูจน์! คลิปพญานาคโผล่เล่นน้ำสกลนคร...จริงหรือ?

เปิดอ่าน 15,440 ครั้ง
แอปเปิ้ลแต่ละสีมีประโยชน์ต่างกัน
แอปเปิ้ลแต่ละสีมีประโยชน์ต่างกัน

เปิดอ่าน 16,541 ครั้ง
กบฏสร้างสรรค์ทางการศึกษา
กบฏสร้างสรรค์ทางการศึกษา

เปิดอ่าน 277,641 ครั้ง
บัญชีอัตราเงินเดือนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาฯแนบท้าย พ.ร.บ.เงินเดือน 2550
บัญชีอัตราเงินเดือนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาฯแนบท้าย พ.ร.บ.เงินเดือน 2550

เปิดอ่าน 9,917 ครั้ง
ปัญหา คือ การเรียนรู้ ?
ปัญหา คือ การเรียนรู้ ?

เปิดอ่าน 93,448 ครั้ง
ทำไมหิงห้อยจึงมีแสง
ทำไมหิงห้อยจึงมีแสง

เปิดอ่าน 2,581 ครั้ง
ปลูกมะเขือเปราะกี่วันเก็บได้
ปลูกมะเขือเปราะกี่วันเก็บได้

เปิดอ่าน 10,044 ครั้ง
เส้นทางสู่ประชาคม เศรษฐกิจอาเซียนของไทย ตอนที่ 1 เจรจา ทูตแห่งการค้าเสรี
เส้นทางสู่ประชาคม เศรษฐกิจอาเซียนของไทย ตอนที่ 1 เจรจา ทูตแห่งการค้าเสรี

เปิดอ่าน 24,650 ครั้ง
ไขข้อข้องใจ การบ้านยังจำเป็นสำหรับเด็กยุคใหม่หรือไม่?
ไขข้อข้องใจ การบ้านยังจำเป็นสำหรับเด็กยุคใหม่หรือไม่?

เปิดอ่าน 22,870 ครั้ง
ทำไมดวงอาทิตย์ตอนเช้าหรือตอนเย็นจึงดูดวงใหญ่
ทำไมดวงอาทิตย์ตอนเช้าหรือตอนเย็นจึงดูดวงใหญ่
เปิดอ่าน 321,202 ครั้ง
Adjectives การเปรียบเทียบคำคุณศัพท์ ( Comparison of Adjectives )
Adjectives การเปรียบเทียบคำคุณศัพท์ ( Comparison of Adjectives )
เปิดอ่าน 19,363 ครั้ง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ของไทย
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ของไทย
เปิดอ่าน 29,252 ครั้ง
เหรียญพิทักษ์เสรีชนชั้นที่ 1
เหรียญพิทักษ์เสรีชนชั้นที่ 1
เปิดอ่าน 12,177 ครั้ง
รู้ทันแก๊งบัตรเครดิต ขโมยง่ายกว่า ATM
รู้ทันแก๊งบัตรเครดิต ขโมยง่ายกว่า ATM

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ