ชื่อเรื่อง รายงานการพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es) ร่วมกับ
แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องอัตราส่วนและร้อยละ สำหรับนักเรียนชั้น
มัธยมศึกษาปีที่ 2
ผู้รายงาน นางสาวนภัสสร ไชยเสนา
โรงเรียน น้ำโสมพิทยาคม จังหวัดอุดรธานี
ปีที่รายงาน 2560
บทคัดย่อ
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ที่ผ่านมาในชั้นเรียนปกติทั่วไป ยังไม่ประสบ
ความสำเร็จเท่าที่ควร การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es)และแบบฝึกทักษะเป็นวิธีการและนวัตกรรมการเรียนรู้อีกอย่างหนึ่งที่ช่วยเสริมสร้างทักษะผู้เรียน การให้ผู้เรียนได้ทำแบบฝึกมาก ๆ และเพิ่มการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ควบคู่เข้าไป จะช่วยให้ผู้เรียนมีพัฒนาการทางการเรียนรู้
ในเนื้อหาได้ดีขึ้น ดังนั้น การศึกษาค้นคว้าครั้งนี้จึงมีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาการจัดกิจกรรม
การเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้(5E)ร่วมกับแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องอัตราส่วนและร้อยละ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 2) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้(5E)ร่วมกับแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องอัตราส่วนและร้อยละ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียนโดยใช้การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้(5E)ร่วมกับ
แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องอัตราส่วนและร้อยละ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ
สืบเสาะหาความรู้(5E)ร่วมกับแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องอัตราส่วนและร้อยละ สำหรับนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาในครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/1 จำนวน 35 คน ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนน้ำโสมพิทยาคม อำเภอน้ำโสม จังหวัดอุดรธานี ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้(5E) จำนวน 9 แผน
แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 7 เล่ม แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เป็นแบบชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก เพื่อใช้วัดความสามารถในการเรียนรู้ของนักเรียน จำนวน 30 ข้อมีค่าความยาก (P) 0.20 ถึง 0.80 และค่าอำนาจจำแนก (B)
ตั้งแต่ 0.69 ถึง 0.79 และค่าอำนาจจำแนกรายข้อ (B) ตั้งแต่ 0.21 ถึง 0.68 ค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ เท่ากับ 0.91 และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้
แบบฝึกทักษะ แบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ จำนวน 20 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนกรายข้อ (rxy) ตั้งแต่ 0.28 ถึง 0.90 ค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.93 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบสมมุติฐานใช้
ttest (Dependent Samples) ผลการศึกษาปรากฏ ดังนี้
1. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้(5E)ร่วมกับแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องอัตราส่วนและร้อยละ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีประสิทธิภาพ
เท่ากับ 80.30/80.10
2. ดัชนีประสิทธิผลของการพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้(5E)ร่วมกับแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องอัตราส่วนและร้อยละ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีค่าเท่ากับ 0.6346 หรือคิดเป็นร้อยละ 63.46 แสดงว่านักเรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียนร้อยละ 63.46
3. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้จัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้(5Es) ร่วมกับแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้(5Es) ร่วมกับแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.56
โดยสรุป การจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้(5Es) ร่วมกับแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
มีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผล นักเรียนมีความพึงพอใจในการเรียนรู้ สามารถนำไปใช้ในการจัด
การเรียนการสอน เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้บรรลุผลตามจุดมุ่งหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ