ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนากิจกรรมการเล่าเรื่องภาษามือ สื่อด้วยตา สู่ทักษะภาษาไทย

ชื่อเรื่อง : การพัฒนา กิจกรรมเล่าเรื่องด้วยภาษามือ สื่อด้วยตา สู่ทักษะภาษาไทย นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดขอนแก่น

ผู้วิจัย : นางบุญโฮม โนนทนวงษ์ โรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดขอนแก่น

ปีการศึกษา : 2559

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนาความสามารถการเล่าเรื่องด้วย กิจกรรมเล่าเรื่องภาษามือ สื่อด้วยตา สู่ทักษะภาษาไทยนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1

2)เพื่อเปรียบเทียบผลการเรียนรู้ก่อนและหลังเรียนจากการการเล่าเรื่องด้วย กิจกรรมเล่าเรื่องภาษามือ สื่อด้วยตา สู่ทักษะภาษาไทยนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาที่ 1 ต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้จากการการเล่าเรื่องด้วย กิจกรรมเล่าเรื่องภาษามือ สื่อด้วยตา สู่ทักษะภาษาไทยนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัยคือนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดขอนแก่น อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 จำนวน 11 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ 1) เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาความสามารถในการเล่าเรื่องด้วย กิจกรรมเล่าเรื่องภาษามือ สื่อด้วยตา สู่ทักษะภาษาไทยนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 2) เครื่องมือที่ใช้ในการสะท้อนผลการจัดการเรียนรู้ ได้แก่ แบบประเมินผลงานการเขียนเล่าเรื่องของนักเรียน การตรวจผลงานการเขียนเล่าเรื่องตามเกณฑ์การตรวจงาน แบบประเมินการพูดเล่าเรื่องด้วยภาษามือ แบบสังเกตการณ์สอนของครู แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนของนักเรียน และแบบประเมินผลการจัดการเรียนรู้ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล 1) ค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) 2) ค่าความยากง่าย (p) 3) ค่าอำนาจจำแนก (r) โดยใช้สูตร Point biserial correlation 4) ค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบโดยใช้สูตร KR-20 ของคูเดอร์ ริชาร์ดสัน สถิติที่ใช้ในการตรวจสอบสมมติฐานได้แก่ ค่าที (t-test)

ผลการวิจัยพบว่า

1. ผลการศึกษาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรม เล่าเรื่องด้วยภาษามือ สื่อด้วยตา สู่ทักษะภาษาไทย ประกอบด้วย 5 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นที่ 1 ขั้นรับข้อมูลสู่การพูด(ภาษามือ)และการเขียน ขั้นที่ 2 รวบรวมข้อมูลด้วยผังความคิดหรือแผนภาพ ขั้นที่ 3 นำข้อมูลสู่การพูดเล่าเรื่องด้วยภาษามือ ประเมินผลและปรับปรุง ขั้นที่ 4 การเขียนเล่าเรื่องจากเรื่องที่พูดเล่าเรื่อง ด้วยภาษามือโดยใช้คำศัพท์พื้นฐาน ขั้นที่ 5 ประเมินผลการเล่าเรื่องด้วยภาษามือ

2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนและหลังการเรียน โดยใช้การเล่าเรื่องด้วย ความสามารถการเล่าเรื่องด้วยภาษามือ สื่อด้วยตา สู่ทักษะภาษาไทย พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

3. ความพึงพอใจของนักเรียน ที่มีต่อการเรียนด้วย กิจกรรมเล่าเรื่อง พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด

โพสต์โดย ชมพูนนุท2528 : [14 มิ.ย. 2561 เวลา 17:05 น.]
อ่าน [5092] ไอพี : 1.47.170.138
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 11,041 ครั้ง
ทำไมหนอ ผู้หญิงถึงชอบรองเท้าส้นสูง
ทำไมหนอ ผู้หญิงถึงชอบรองเท้าส้นสูง

เปิดอ่าน 11,558 ครั้ง
พ่อ-แม่เลี้ยงลูกให้เก่งแบบนี้ได้อย่างไร? รายการ ดูให้รู้  ตอน "เจ้าหนูยอดมนุษย์"
พ่อ-แม่เลี้ยงลูกให้เก่งแบบนี้ได้อย่างไร? รายการ ดูให้รู้ ตอน "เจ้าหนูยอดมนุษย์"

เปิดอ่าน 19,144 ครั้ง
ปลูกมะนาวนอกฤดู 1 ไร่ ได้ 1 แสน
ปลูกมะนาวนอกฤดู 1 ไร่ ได้ 1 แสน

เปิดอ่าน 61,566 ครั้ง
9 เหตุผลที่คนเก่ง ก้าวไปได้ไม่ไกลในสายงาน
9 เหตุผลที่คนเก่ง ก้าวไปได้ไม่ไกลในสายงาน

เปิดอ่าน 72,200 ครั้ง
3ป. ที่ทำให้ลูก"เสียคน"
3ป. ที่ทำให้ลูก"เสียคน"

เปิดอ่าน 8,472 ครั้ง
แนวทางการขับเคลื่อนวิชาชีพครูสู่อาเซียน (พ.ศ.2557-2560)
แนวทางการขับเคลื่อนวิชาชีพครูสู่อาเซียน (พ.ศ.2557-2560)

เปิดอ่าน 15,583 ครั้ง
เคล็ดลับ!! เติมพลังใจคนวัยทำงาน
เคล็ดลับ!! เติมพลังใจคนวัยทำงาน

เปิดอ่าน 28,078 ครั้ง
"นพ.ยง" มีคำตอบ! เคยติด "โควิด-19" ติดซ้ำได้หรือไม่-ต้อง "ฉีดวัคซีน" อีกหรือไม่.?
"นพ.ยง" มีคำตอบ! เคยติด "โควิด-19" ติดซ้ำได้หรือไม่-ต้อง "ฉีดวัคซีน" อีกหรือไม่.?

เปิดอ่าน 44,914 ครั้ง
5 ผักธรรมดาที่ไม่ธรรมดา กินมากไประวังอาการเหล่านี้!!
5 ผักธรรมดาที่ไม่ธรรมดา กินมากไประวังอาการเหล่านี้!!

เปิดอ่าน 1,976 ครั้ง
Computer Graphic คืออะไร
Computer Graphic คืออะไร

เปิดอ่าน 15,283 ครั้ง
คืนผิวหน้าสวยด้วยฟักทอง
คืนผิวหน้าสวยด้วยฟักทอง

เปิดอ่าน 82,066 ครั้ง
ปล้นสะดม หรือ ปล้นสดมภ์  กันแน่
ปล้นสะดม หรือ ปล้นสดมภ์ กันแน่

เปิดอ่าน 20,207 ครั้ง
ของพรีเมี่ยมคืออะไร ?
ของพรีเมี่ยมคืออะไร ?

เปิดอ่าน 13,589 ครั้ง
แนะเด็กกินผักสด สู้หวัดหน้าหนาว
แนะเด็กกินผักสด สู้หวัดหน้าหนาว

เปิดอ่าน 12,448 ครั้ง
ปฏิรูปการศึกษานับหนึ่งใครเป็นใคร
ปฏิรูปการศึกษานับหนึ่งใครเป็นใคร

เปิดอ่าน 12,132 ครั้ง
กล้ามเนื้อน้อยจะอ้วนง่าย... จริงหรือ ?
กล้ามเนื้อน้อยจะอ้วนง่าย... จริงหรือ ?
เปิดอ่าน 25,799 ครั้ง
เสริมมงคลแบบเสือ ๆ ต้อนรับปีขาล
เสริมมงคลแบบเสือ ๆ ต้อนรับปีขาล
เปิดอ่าน 20,849 ครั้ง
เทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษาในฐานะศาสตร์
เทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษาในฐานะศาสตร์
เปิดอ่าน 29,049 ครั้ง
"หินถ่วงบวบ"ไอเดียปลูกบวม ได้ผลใหญ่ สวย และยาวมาก
"หินถ่วงบวบ"ไอเดียปลูกบวม ได้ผลใหญ่ สวย และยาวมาก
เปิดอ่าน 19,105 ครั้ง
สัญญาณ WiFi มีอันตรายต่อสมองหรือไม่
สัญญาณ WiFi มีอันตรายต่อสมองหรือไม่

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ