การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพบทเรียนออนไลน์
โดยใช้เทคนิคการเรียนรู้แบบปัญหาเป็นฐานเพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 เรื่อง การเขียนโปรแกรมขั้นพื้นฐานสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนผ่านบทเรียนออนไลน์โดยใช้เทคนิคการเรียนรู้แบบปัญหาเป็นฐาน 3) เพื่อศึกษาทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของผู้เรียนหลังจากเรียนด้วยบทเรียนออนไลน์โดยใช้เทคนิคการเรียนรู้แบบปัญหาเป็นฐานเพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 เรื่อง การเขียนโปรแกรมขั้นพื้นฐาน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของผู้เรียนที่เรียนด้วยบทเรียนออนไลน์โดยใช้เทคนิคการเรียนรู้แบบปัญหาเป็นฐานเพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 เรื่อง การเขียนโปรแกรมขั้นพื้นฐาน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนขอนแก่นวิทยายน ที่เรียนรายวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศ ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 ซึ่งได้จากการสุ่มด้วยวิธีการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) ด้วยวิธีการจับฉลากจำนวนห้องเรียน การวิจัยใช้รูปแบบการวิจัยกึ่งการทดลอง One Group Pretest - Posttest Design สถิติที่ใช้ในการการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย (X) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ค่าร้อยละ (%) ทดสอบสมมติฐานด้วยสถิติทดสอบที (t-test)
เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ 1) แผนการจัดการเรียนรู้ด้วยบทเรียนออนไลน์โดยใช้เทคนิคการเรียนรู้แบบปัญหาเป็นฐาน เรื่อง การเขียนโปรแกรมขั้นพื้นฐาน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 7 แผน เวลาเรียน 14 ชั่วโมง 2) บทเรียนออนไลน์โดยใช้เทคนิคการเรียนรู้แบบปัญหาเป็นฐาน เรื่อง การเขียนโปรแกรมขั้นพื้นฐาน 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การเขียนโปรแกรมขั้นพื้นฐาน เป็นแบบทดสอบแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อซึ่งมีค่าความยากง่าย(p) อยู่ระหว่าง 0.27-0.73 ค่าอำนาจจำแนก (r) อยู่ระหว่าง 0.20 0.80 และมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ (KR20) เท่ากับ 0.89 4) แบบประเมินทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 เป็นแบบประเมินแบบมาตราส่วนประมาณค่า 3 ระดับ 5) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนผ่านบทเรียนออนไลน์โดยใช้เทคนิคการเรียนรู้แบบปัญหาเป็นฐาน เรื่องการเขียนโปรแกรมขั้นพื้นฐาน เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ
ผลการศึกษาพบว่า
1) ประสิทธิภาพของการจัดการเรียนการสอนด้วยบทเรียนออนไลน์โดยใช้เทคนิค
การเรียนรู้แบบปัญหาเป็นฐานเพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 เรื่อง การเขียนโปรแกรมขั้นพื้นฐาน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่พัฒนาขึ้น มีประสิทธิภาพ 84.21/82.06 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้
2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนผ่านบทเรียน
ออนไลน์โดยใช้เทคนิคการเรียนรู้แบบปัญหาเป็นฐานเพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 เรื่อง การเขียนโปรแกรมขั้นพื้นฐาน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่พัฒนาขึ้น มีค่าคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียน 16.10 และคะแนนเฉลี่ยหลังเรียน 32.43 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3) นักเรียนที่เรียนด้วยบทเรียนออนไลน์โดยใช้เทคนิคการเรียนรู้แบบปัญหาเป็นฐาน
เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 เรื่อง การเขียนโปรแกรมขั้นพื้นฐาน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ตามพฤติกรรมที่บ่งชี้ มีค่าเฉลี่ย 2.52 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.15 อยู่ในระดับดีมาก
4) ความพึงพอใจของผู้เรียนที่เรียนด้วยบทเรียนออนไลน์โดยใช้เทคนิคการเรียนรู้
แบบปัญหาเป็นฐานเพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 เรื่อง การเขียนโปรแกรมขั้นพื้นฐาน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.82 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.46 ถือว่าผู้เรียนมีความพึงพอใจในระดับมาก