ชื่อเรื่อง การพัฒนาชุดการเรียนคณิตศาสตร์โดยใช้วิธีเรียนแบบร่วมมือ
เทคนิคแบ่งกลุ่มคละผลสัมฤทธิ์ (STAD) เรื่อง ระบบสมการเชิงเส้น
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
ผู้วิจัย วิเชียร แจ่มใส
ปีที่ทำการวิจัย พ.ศ. 2560
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนาชุดการเรียนคณิตศาสตร์โดยใช้วิธีเรียนแบบร่วมมือ เทคนิคแบ่งกลุ่มคละผลสัมฤทธิ์ (STAD) เรื่อง ระบบสมการเชิงเส้น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วย ชุดการเรียนคณิตศาสตร์โดยใช้วิธีเรียนแบบร่วมมือ เทคนิคแบ่งกลุ่มคละผลสัมฤทธิ์ (STAD) เรื่องระบบสมการเชิงเส้น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน เรื่องระบบสมการเชิงเส้น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กับเกณฑ์ร้อยละ 75 จากการจัดการเรียนรู้ด้วย ชุดการเรียนคณิตศาสตร์โดยใช้วิธีเรียนแบบร่วมมือ เทคนิคแบ่งกลุ่มคละผลสัมฤทธิ์ (STAD) และเพื่อศึกษา ความพึงพอใจของนักเรียนต่อการใช้ชุดการเรียนคณิตศาสตร์โดยใช้วิธีเรียนแบบร่วมมือ เทคนิคแบ่งกลุ่มคละผลสัมฤทธิ์ (STAD) เรื่องระบบสมการเชิงเส้น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนบ้านโคกลำดวน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 1 จำนวน 30 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) รูปแบบการทดลองใช้ One Group Pretest Posttest Design เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย ชุดการเรียนคณิตศาสตร์โดยใช้วิธีเรียนแบบร่วมมือ เทคนิคแบ่งกลุ่ม คละผลสัมฤทธิ์ (STAD) เรื่องระบบสมการเชิงเส้น จำนวน 5 ชุด แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 5 แผน ใช้เวลาเรียน 15 ชั่วโมง แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องระบบสมการเชิงเส้น เป็นแบบทดสอบชนิดเลือกตอบแบบปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ ซึ่งมีค่าความยากตั้งแต่ 0.20 - 0.76 ค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.20 0.87 และค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.86 และแบบประเมินความพึงพอใจการเรียนจากการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ชุดการเรียนคณิตศาสตร์และการเรียนแบบร่วมมือ จำนวน 20 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการทดสอบสมมติฐานโดยใช้ t-test (One - Samples)
ผลการวิจัยพบว่า
1. ชุดการเรียนคณิตศาสตร์โดยใช้วิธีเรียนแบบร่วมมือ เทคนิคแบ่งกลุ่มคละผลสัมฤทธิ์ (STAD) เรื่องระบบสมการเชิงเส้น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 84.08/82.56 สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด 80/80
2. ค่าดัชนีประสิทธิผล (E.I) ของการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนด้วยชุดการเรียนคณิตศาสตร์โดยใช้วิธีเรียนแบบร่วมมือ เทคนิคแบ่งกลุ่มคละผลสัมฤทธิ์ (STAD) เรื่องระบบสมการเชิงเส้น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีค่าเท่ากับ 0.7618 หมายความว่านักเรียนมีคะแนนหลังเรียนเพิ่มขึ้นจากก่อนเรียนคิดเป็นร้อยละ 76.18
3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน เรื่อง ระบบสมการเชิงเส้น ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 3 หลังจากจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยชุดการเรียนคณิตศาสตร์โดยใช้วิธีเรียนแบบร่วมมือ เทคนิคแบ่งกลุ่มคละผลสัมฤทธิ์ (STAD) มีคะแนนหลังเรียนสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้คือร้อยละ 75 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
4. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีความพึงพอใจจากการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนด้วยชุดการเรียนคณิตศาสตร์โดยใช้วิธีเรียนแบบร่วมมือ เทคนิคแบ่งกลุ่มคละผลสัมฤทธิ์ (STAD) เรื่องระบบสมการเชิงเส้น โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด