ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ภาษาไทยโดยผสานทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์กับกลวิธีการให้เหตุผลเพื่อส่งเสริมการคิดอย่างมีวิจารณญาณ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีท

บทคัดย่อ

การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการในด้านการจัด

การเรียนรู้ภาษาไทยเพื่อส่งเสริมการคิดอย่างมีวิจารณญาณ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

2) เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ภาษาไทยโดยผสานทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์กับกลวิธี

การให้เหตุผลเพื่อส่งเสริมการคิดอย่างมีวิจารณญาณ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

และ 3) เพื่อศึกษาผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ภาษาไทยโดยผสานทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์

กับกลวิธีการให้เหตุผลเพื่อส่งเสริมการคิดอย่างมีวิจารณญาณ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ดังนี้ 3.1 เปรียบเทียบการคิดอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียน ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน

ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ 3.2 เปรียบเทียบการคิดอย่างมีวิจารณญาณ และผลสัมฤทธิ์

ทางการเรียนหลังเรียนระหว่างกลุ่มนักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้กับนักเรียน

ที่เรียนด้วยวิธีปกติ กลุ่มตัวอย่างและกลุ่มเป้าหมายที่ใช้ประกอบด้วย ครูและนักเรียนจากโรงเรียน

ในอำเภอปางศิลาทอง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากำแพงเพชร เขต 2 ดังนี้

ระยะที่ 1 ได้แก่ ครูกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ที่ตอบแบบสอบถาม จำนวน 19 คน

ครูและนักเรียนที่ได้รับการสัมภาษณ์ จำนวน 17 คน ระยะที่ 2 กลุ่มตัวอย่างทดลองใช้รูปแบบ

ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนอนุบาลปางศิลาทอง จำนวน 40 คน และระยะที่ 3

กลุ่มตัวอย่างศึกษาผลการใช้รูปแบบ ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านท่าขึ้น จำนวน 23 คน เป็นกลุ่มทดลอง และกลุ่มควบคุมเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนอนุบาลปางศิลาทอง จำนวน 25 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling)

สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการทดสอบสมมติฐานใช้ t-test (Dependent Samples) และ Hoteling - T2

ผลการวิจัย พบว่า

1. สภาพปัญหาครูสนับสนุนการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมการคิดอย่างมีวิจารณญาณ

ให้บรรลุผล และมีโอกาสปฏิบัติกิจกรรมการเรียนด้านดังกล่าวอยู่ในระดับน้อย = 2.39,

S.D. = 0.60 โดยเฉพาะการฝึกให้ผู้เรียนได้วิเคราะห์ อธิบายข้อมูลความรู้ที่มีการอ้างอิงเหตุผลเหมาะสมและน่าเชื่อถือผ่านการใช้ประสบการณ์ความรู้เดิม ขณะที่ครูและนักเรียนมีความต้องการสนับสนุนการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมการคิดอย่างมีวิจารณญาณในระดับมาก = 4.34,

S.D. = 0.47

2. รูปแบบการจัดการเรียนรู้ภาษาไทยโดยผสานทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์กับกลวิธี

การให้เหตุผลเพื่อส่งเสริมการคิดอย่างมีวิจารณญาณ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีคุณภาพและความเหมาะสม ในระดับมาก = 4.34, S.D. = 0.47 ซึ่งเป็นรูปแบบการจัดการเรียนรู้

ที่ประกอบด้วย 1) หลักการ แนวคิด ทฤษฎีพื้นฐาน 2) วัตถุประสงค์ของรูปแบบ 3) ขั้นตอนการจัดการเรียนรู้ 4) ระบบสังคม 5) หลักการตอบสนอง 6) ระบบสนับสนุน โดยมีกระบวนการเรียนรู้ 6 ขั้น ได้แก่ ขั้นสร้างความสนใจ ขั้นสร้างความเข้าใจเหตุการณ์หรือสถานการณ์และเชื่อมโยงประสบการณ์พื้นฐาน ขั้นสรุปความรู้และค้นหาคำตอบ ขั้นไตร่ตรองและยอมรับการลงความเห็นผ่านการอ้างอิงและข้อโต้แย้ง และขั้นประยุกต์ใช้ความรู้ ซึ่งผลการศึกษา พบว่า ประสิทธิภาพ

ของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ เมื่อคำนวณจากการทดสอบวัดความสามารถในการคิดอย่างมีวิจารณญาณหลังเรียน มีค่าเท่ากับ 82.70/80.17 และเมื่อคำนวณจากการทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์

ทางการเรียน (E1/E2) มีค่าเท่ากับ 82.70/82.42

3. ผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ พบว่า

3.1 นักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้นมีความสามารถ

ในการคิดอย่างมีวิจารณญาณ หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

3.2 นักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ ที่พัฒนาขึ้นมีความสามารถ

ในการคิดอย่างมีวิจารณญาณ และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หลังเรียนสูงกว่านักเรียนที่เรียนด้วย

วิธีปกติ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

โพสต์โดย ตุ๊ก : [14 มิ.ย. 2561 เวลา 07:18 น.]
อ่าน [5085] ไอพี : 1.47.4.75
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 24,209 ครั้ง
เปิดชื่อ 11 จังหวัด หนาวยะเยือกที่สุดในประเทศ
เปิดชื่อ 11 จังหวัด หนาวยะเยือกที่สุดในประเทศ

เปิดอ่าน 21,850 ครั้ง
ทักษะที่จำเป็นของคนอายุ 18
ทักษะที่จำเป็นของคนอายุ 18

เปิดอ่าน 10,331 ครั้ง
สตอเรจแก้วเก็บข้อมูลได้หลายร้อยล้านปี
สตอเรจแก้วเก็บข้อมูลได้หลายร้อยล้านปี

เปิดอ่าน 12,590 ครั้ง
สมรรถนะที่จำเป็นสำหรับตำแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สมรรถนะที่จำเป็นสำหรับตำแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญ

เปิดอ่าน 9,777 ครั้ง
คุณรู้จริงหรือไม่ กับการปฐมพยาบาลเบื้องต้น
คุณรู้จริงหรือไม่ กับการปฐมพยาบาลเบื้องต้น

เปิดอ่าน 35,360 ครั้ง
กีฬาฟุตบอล มาจากไหน?
กีฬาฟุตบอล มาจากไหน?

เปิดอ่าน 17,751 ครั้ง
นักฟิสิกส์อินเดีย ชี้มีวิธีค้นหา ‘รูหนอน’
นักฟิสิกส์อินเดีย ชี้มีวิธีค้นหา ‘รูหนอน’

เปิดอ่าน 12,088 ครั้ง
ฉาวอีก! คลิปตำรวจไทย... "มาๆๆ ร้อยเดียวพอ"
ฉาวอีก! คลิปตำรวจไทย... "มาๆๆ ร้อยเดียวพอ"

เปิดอ่าน 19,476 ครั้ง
วิธีแก้ปวดหลัง
วิธีแก้ปวดหลัง

เปิดอ่าน 13,128 ครั้ง
"ผักติ้ว" ผักพื้นบ้านชาวอีสานที่ไม่ควรมองข้าม
"ผักติ้ว" ผักพื้นบ้านชาวอีสานที่ไม่ควรมองข้าม

เปิดอ่าน 26,226 ครั้ง
Download เอกสารหนังสือ "ครูดีในดวงใจ พ.ศ.2561"
Download เอกสารหนังสือ "ครูดีในดวงใจ พ.ศ.2561"

เปิดอ่าน 4,011 ครั้ง
"ยาเสียสาว" คืออะไร? ต้องป้องกันตัวอย่างไร?
"ยาเสียสาว" คืออะไร? ต้องป้องกันตัวอย่างไร?

เปิดอ่าน 1,616 ครั้ง
History of Mahidol University
History of Mahidol University

เปิดอ่าน 10,639 ครั้ง
เทคนิคการคูณเลขแบบญี่ปุ่นกรณีมีเลขศูนย์อยู่ด้วย
เทคนิคการคูณเลขแบบญี่ปุ่นกรณีมีเลขศูนย์อยู่ด้วย

เปิดอ่าน 16,344 ครั้ง
คำแนะนำช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย 8 วิธีการเตรียมปรุงอาหารเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย
คำแนะนำช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย 8 วิธีการเตรียมปรุงอาหารเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย

เปิดอ่าน 20,176 ครั้ง
รู้หรือไม่ ที่ฟินแลนด์ ยกระดับการศึกษา ต้องเริ่มที่พัฒนาครูผู้สอน
รู้หรือไม่ ที่ฟินแลนด์ ยกระดับการศึกษา ต้องเริ่มที่พัฒนาครูผู้สอน
เปิดอ่าน 4,276 ครั้ง
ฮิคิโคโมริ ซินโดรม โรคเก็บตัวที่คุณพ่อคุณแม่ต้องสังเกตุเมื่อลูกเริ่มหนีห่างจากสังคม
ฮิคิโคโมริ ซินโดรม โรคเก็บตัวที่คุณพ่อคุณแม่ต้องสังเกตุเมื่อลูกเริ่มหนีห่างจากสังคม
เปิดอ่าน 10,367 ครั้ง
แอสเพอร์เกอร์ซินโดรม อีกหนึ่งอาการที่ไม่ควรมองข้าม
แอสเพอร์เกอร์ซินโดรม อีกหนึ่งอาการที่ไม่ควรมองข้าม
เปิดอ่าน 18,248 ครั้ง
How To Learn English
How To Learn English
เปิดอ่าน 9,022 ครั้ง
3 ข้อควรรู้ ก่อนพาลูก ไปหาหมอ
3 ข้อควรรู้ ก่อนพาลูก ไปหาหมอ

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ