|
|
วิจัยเรื่อง การใช้วิธีการแบบเปิด (Open Approach) เพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์และเจตคติที่มีต่อวิชาคณิตศาสตร์
ชื่อผู้วิจัย นางสาวรัตนา เวฬุวนารักษ์
ตำแหน่ง ครู โรงเรียนศรียาภัย
ช่วงเวลาที่ทำการวิจัย ปีการศึกษา 2559
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้โดยการใช้วิธีการแบบเปิด (Open Approach) เพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์และความคิดสร้างสรรค์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนศรียาภัย จังหวัดชุมพร ปีการศึกษา 2559 จํานวน 30 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยมี 3 ประเภท คือ 1) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีการแบบเปิด (Open approach) จํานวน 4 แผน 2) เครื่องมือประเมินการวิจัย ได้แก่ แบบสังเกตการจัดการเรียนรู้ โดยครูผู้สอน แบบสังเกตการจัดการเรียนรู้ 3) เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินประสิทธิภาพ การจัดการเรียนรู้ คือ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจํานวน 20 ข้อ และการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ ค่าสถิติพื้นฐานคือ การหาค่าร้อยละ และค่าเฉลี่ย ผลการวิจัยพบว่า 1) ด้านนักเรียน นักเรียนเกิดสภาวะความเป็นผู้นํา มีการผลัดเปลี่ยนกันเป็นหัวหน้ากลุ่ม กล้าที่จะเสนอ ความคิดของตนเองต่อกลุ่ม มีการนําเสนอผลงานที่หลากหลาย รู้จักการแก้ปัญหาได้อย่างเป็นระบบ ทั้ง ในขณะการทํากิจกรรมกลุ่มและขณะนําเสนอผลงานหน้าชั้น มีการจัดระบบการทํางานกลุ่มอย่างเป็นขั้นตอน บางครั้งต้องมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างเพื่อนในกลุ่ม จึงทําให้เกิดการรับฟังความคิดเห็นของเพื่อน การปล่อยเวลาให้นักเรียนแก้ปัญหาคณิตศาสตร์อย่างอิสระยาวนานมากพอ จะทําให้นักเรียนคิดได้หลากหลาย มากขึ้น การกระตุ้นให้นักเรียนอภิปรายในกลุ่มเป็นกระบวนการสําคัญที่สามารถทําให้นักเรียนพัฒนาทักษะ กระบวนการคิดที่หลากหลายขึ้น 2) ด้านครูผู้สอน ครูมีบทบาทสําคัญอย่างยิ่งในการอํานวยความสะดวกโดย การเตรียมกิจกรรม เตรียมสื่อเพื่อใช้ในกิจกรรมการเรียนรู้การเรียนรู้ที่ดีและคงทนย่อมเกิดจากนักเรียนเอง ดังนั้นครูจะไม่แนะแนวทางในการแก้ปัญหาหรือหาคําตอบให้กับนักเรียน แต่จะกระตุ้นให้นักเรียนได้เกิด ประเด็นที่สงสัย อยากรู้นําไปสู่กระบวนการคิดที่หลากหลายเพื่อนําไปสู่คําตอบนั้น 3) ด้านกิจกรรมการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ในรูปแบบวิธีการแบบเปิดโดยสอนร่วมกับวิธีการศึกษาชั้นเรียน เป็นรูปแบบที่มีส่วนสําคัญอย่างยิ่งที่ช่วยทําให้นักเรียนดึงกระบวนการคิดทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนออกมาได้อย่างหลากหลาย สร้างความสนใจให้กับนักเรียนทําให้นักเรียนเกิดความอยากรู้อยากเห็น ไม่กลัวที่จะตอบคําถามเพราะไม่มี คําตอบใดผิด เปิดโอกาสให้นักเรียนที่มีความสามารถแตกต่างกันได้ร่วมคิดค้นหาคําตอบที่หลากหลายด้วยตัวเอง นอกจากนี้ครูยังสามารถเห็นกระบวนการคิดของนักเรียนได้อย่างชัดเจนจากมุมมองของครูและผู้ สังเกตการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ส่งผลให้ครูผู้สอนเข้าใจกระบวนการคิดของนักเรียนและสามารถปรับปรุง กิจกรรมการเรียนการสอนให้เหมาะกับนักเรียนในครั้งต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ
จากผลการวิจัยสรุปได้ว่า
1. ปัญหาปลายเปิดมีศักยภาพในการดึงกระบวนการคิดทางคณิตศาสตร์ ของนักเรียนออกมาได้อย่างหลากหลาย สามารถนํานักเรียนไปสู่ การค้นพบสูตร กฎ หลักการทาง คณิตศาสตร์ด้วยตัวของนักเรียนเอง ผู้สอนสามารถสังเกตกระบวนการเรียนรู้ทางคณิตศาสตร์และการคิดทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนได้โดยอาศัยกิจกรรมที่เป็นปัญหาปลายเปิด อีกทั้งปัญหาปลายเปิดยังส่งเสริมให้ นักเรียนเกิดคุณลักษณะอันพึงประสงค์ในด้านต่าง ๆ เช่น มีความเชื่อมั่นในตัวเอง กล้าแสดงความคิดเห็น สามารถอภิปรายแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน มีทักษะในการทํางานร่วมกันกับผู้อื่น มีความรับผิดชอบ
2. นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการนักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น จากเดิมร้อยละ 63.33 เป็นร้อยละ 90.00 มี ได้คะแนนตั้งแต่ร้อยละ 70 ขึ้นไปสูงขึ้นจากเดิมคิดเป็นร้อยละ 42.11
|
โพสต์โดย โพธิ์ : [11 มิ.ย. 2561 เวลา 13:07 น.] อ่าน [6370] ไอพี : 1.179.194.201
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 26,504 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,886 ครั้ง
| เปิดอ่าน 35,346 ครั้ง
| เปิดอ่าน 16,394 ครั้ง
| เปิดอ่าน 132,053 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,157 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,490 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,575 ครั้ง
| เปิดอ่าน 52,981 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,993 ครั้ง
| เปิดอ่าน 21,989 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,384 ครั้ง
| เปิดอ่าน 108,005 ครั้ง
| เปิดอ่าน 16,253 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,082 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 16,059 ครั้ง
| เปิดอ่าน 4,733 ครั้ง
| เปิดอ่าน 40,622 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,173 ครั้ง
| เปิดอ่าน 20,783 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|