ชื่อเรื่อง การพัฒนาการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค STAD โดยใช้แบบฝึกทักษะ
คณิตศาสตร์ เรื่อง อสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
ผู้ศึกษา นางสวนีย์ มากพิสุทธิ์ ตำแหน่งครู วิทยฐานะครูชำนาญการ
โรงเรียน ประจักษ์ศิลปาคาร สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 20
ปีที่พิมพ์ พ.ศ. 2561
บทคัดย่อ
การพัฒนาการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค STAD โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง อสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีวัตถุประสงค์
1) เพื่อพัฒนาการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค STAD โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง อสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 2) เพื่อหาค่าดัชนีประสิทธิผลของการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค STAD โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง อสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อน และหลัง การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค STAD โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง อสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว
4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค STAD โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง อสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนประจักษ์ศิลปาคาร อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 20 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 1 ห้องเรียน คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/2 จำนวน 29 คน ได้จากวิธีการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยของการสุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ประกอบด้วย 1) แผนการจัดการเรียนรู้จำนวน 16 แผน 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่องอสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว ซึ่งเป็นแบบปรนัยชนิด 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ โดยมีค่าความยากตั้งแต่ 0.42 ถึง 0.56 และค่าอำนาจจำแนก (B) ตั้งแต่ 0.33 ถึง 0.61 และมีค่าความเชื่อมั่นของข้อสอบทั้งฉบับเท่ากับ 0.83 3) แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง อสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว จำนวน 8 เล่ม และ 4) แบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค STAD โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง อสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เป็นแบบมาตราการประมาณค่า (Rating scale) ชนิด 5 ระดับ จำนวน 12 ข้อ ซึ่งมีค่าอำนาจจำแนก รายข้อตั้งแต่ 0.43 ถึง 0.61 และค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.85 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลคือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทดสอบสมมติฐานโดยใช้ t test (Dependent Sample)
ผลการศึกษาพบว่า 1) การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค STAD โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง อสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว มีประสิทธิภาพเท่ากับ 90.30/80.92 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ 2) การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค STAD โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง อสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว มีค่าดัชนีประสิทธิผลมีค่าเท่ากับ 0.6686 แสดงว่า การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค STAD โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง อสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว ที่ผู้ศึกษาพัฒนาขึ้นทำให้นักเรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียนโดยมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น 0.6686 หรือคิดเป็นร้อยละ 66.86 3) นักเรียนที่เรียนด้วยการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค STAD โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง อสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญ ทางสถิติที่ระดับ .01 และ 4) นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค STAD โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง อสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว ที่ผู้ศึกษาพัฒนาขึ้นโดยภาพรวมความพึงพอใจทุกด้านอยู่ในระดับมาก คะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 4.24 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.60
โดยสรุป การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค STAD โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์
เรื่อง อสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว มีประสิทธิภาพ และเกิดประสิทธิผล ทำให้ผู้เรียนมีความรู้เพิ่มขึ้นหลังจากเรียน รวมทั้งผู้เรียนมีความพึงพอใจต่อกิจกรรมการเรียนรู้อยู่ในระดับมาก จึงเหมาะสมที่ครูผู้สอน ผู้บริหารโรงเรียน ศึกษานิเทศก์ ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง จะสามารถนำไปใช้ในการจัดการเรียนการสอน และประยุกต์ใช้ให้สอดคล้องกับเนื้อหาวิชา เพื่อพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ให้เกิดประสิทธิภาพต่อไป