ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การประเมินโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน

ชื่อเรื่อง การประเมินโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนที่ส่งผลต่อการพัฒนา

คุณภาพนักเรียน โรงเรียนบ้านโคกสะอาด (ประชาราษฎร์รังสรรค์)

ผู้รายงาน นายทิวากร มีระหันนอก

ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านโคกสะอาด (ประชาราษฎร์รังสรรค์)

สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 6

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ

ปีการศึกษา 2560

บทคัดย่อ

การประเมินโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนที่ส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพนักเรียน โรงเรียนบ้านโคกสะอาด (ประชาราษฎร์รังสรรค์) มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อประเมินโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนบ้านโคกสะอาด (ประชาราษฎร์รังสรรค์) (1.1) ด้านบริบทหรือสภาพแวดล้อม (1.2) ด้านปัจจัยเบื้องต้น (1.3) ด้านกระบวนการ (1.4) ด้านผลผลิต (2) เพื่อศึกษาผลการดำเนินงานตามโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนบ้านโคกสะอาด (ประชาราษฎร์รังสรรค์) ประชากร ได้แก่ นักเรียน ครู และผู้ปกครองนักเรียน โรงเรียนบ้านโคกสะอาด (ประชาราษฎร์รังสรรค์) ในปีการศึกษา 2560 จำนวน 334 คน จำแนกเป็นนักเรียน 160 คน ครู 14 คน และผู้ปกครองนักเรียน 160 คน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการประเมิน ได้แก่ นักเรียน ครู และผู้ปกครองนักเรียน โรงเรียนบ้านโคกสะอาด (ประชาราษฎร์รังสรรค์) ในปีการศึกษา 2560 จำนวน 240 คน จำแนกเป็นนักเรียน 113 คน ครู 14 คน และผู้ปกครองนักเรียน 113 คน ซึ่งกำหนดขนาดของกลุ่มตัวอย่างโดยใช้ตารางของ Krejcie และ Morgan และทำการสุ่มตัวอย่างแบบง่าย (Simple random sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการประเมิน คือ แบบสอบถาม จำนวน 5 ฉบับ แต่ละฉบับมี 2 ตอน คือ ตอนที่ 1 คำถามเกี่ยวกับสถานภาพของผู้ตอบแบบสอบถาม ตอนที่ 2 เป็นคำถามการประเมินโครงการ และผลการดำเนินงานโครงการ แบบสอบถามเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับความคิดเห็น สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการประเมินโครงการพบว่า

1. ด้านสภาพแวดล้อมของโครงการ โดยภาพรวม มีความเหมาะสมในระดับ

( = 3.84, S.D. = 0.77)

เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากทั้ง 14 ข้อ โดยข้อที่มีค่าเฉลี่ยความเหมาะสมสูงที่สุด ได้แก่ ข้อ 9 ครูมีความรู้ความเข้าใจ มีเจตคติที่ดีในบทบาทหน้าที่การดูแลช่วยเหลือนักเรียน ( = 3.96,S.D. = 0.86) รองลงมาได้แก่ข้อที่ 10 ครูให้ความช่วยเหลือในการดำเนินโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน ( = 3.96,S.D. = 0.69) ส่วนที่มีค่าความเหมาะสมต่ำสุด ได้แก่ ข้อ 12 ผู้ปกครอง นักเรียน และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องมีการประสานสัมพันธ์เพื่อดูแลช่วยเหลือนักเรียนทั้งในโรงเรียนและที่บ้าน ( = 3.96,S.D. = 0.81)

2. ด้านปัจจัยในการดำเนินงานของโครงการ โดยภาพรวม มีความพร้อมในระดับมาก

( = 3.69, S.D. = 0.68)

เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า มีความพร้อมอยู่ในระดับมากทั้ง 17 ข้อ โดยข้อที่มีค่าเฉลี่ยความพร้อมสูงที่สุด ได้แก่ ข้อ 24 ครูผู้รับผิดชอบมีความรู้ ความเข้าใจในการดำเนินงานระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน ( = 4.06, S.D. = 0.82) รองลงมาได้แก่ข้อที่ 15 โรงเรียนมีคำสั่งแต่งตั้งผู้ดำเนินงานระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนและกำหนดบทบาทหน้าที่เหมาะสม ( = 3.87, S.D. = 0.66) ส่วนข้อมีความพร้อมต่ำสุด ได้แก่ ข้อ 16 โรงเรียนได้ให้ความรู้เกี่ยวกับระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนแก่ครูผู้รับผิดชอบ ( = 3.50, S.D. = 0.64)

3. ด้านกระบวนการปฏิบัติงานตามโครงการ โดยภาพรวม มีความเหมาะสมในระดับมาก ( = 3.85, S.D. = 0.64)

เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากทั้ง 25 ข้อ โดยข้อที่มีค่าเฉลี่ยความเหมาะสมสูงสุด ได้แก่ ข้อ 50 ครูให้คำปรึกษาด้านการเรียน ( = 4.30, S.D. = 0.66) รองลงมาได้แก่ข้อที่ 48 ครูออกเยี่ยมบ้านนักเรียนทุกคน ( = 4.23, S.D. = 0.70) ส่วนข้อที่มีค่า ความเหมาะสมต่ำสุด ได้แก่ ข้อ 46 ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนได้แสดงความสามารถในการจัดกิจกรรมต่างๆ ของโรงเรียน ( = 3.46, S.D. = 0.64)

4. ด้านผลการผลิตของโครงการ โดยภาพรวม มีความเหมาะสมในระดับมาก

( = 3.85, S.D. = 0.73)

เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากทั้ง 16 ข้อ โดยข้อที่มีค่าเฉลี่ยความเหมาะสมสูงที่สุด ได้แก่ ข้อ 69 นักเรียนสามารถหลีกเลี่ยง และป้องกันตนเองให้ห่างจาก สิ่งเสพติด ( = 4.00, S.D. = 0.71) รองลงมาได้แก่ข้อ 68 นักเรียนไม่เสพสิ่งเสพติด และไม่แสวงหา ผลประโยชน์จากสิ่งเสพติด ( = 3.98, S.D. = 0.67) ส่วนข้อที่มีค่าความเหมาะสมต่ำสุด ได้แก่ ข้อ 58 นักเรียนมีพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์( = 3.64, S.D. = 0.71)

5. ผลการดำเนินงานตามระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน โดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก ( = 3.86, S.D. = 0.71)

เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า มีผลการดำเนินงานอยู่ในระดับมาก 4 ด้าน และปานกลาง 1 ด้าน โดยด้านที่มีค่าเฉลี่ยความเหมาะสมสูงที่สุด ได้แก่ ด้านการส่งเสริมนักเรียน ( = 4.16, S.D.= 0.64) รองลงมาได้แก่ ด้านการป้องกันและแก้ไข ( = 3.94, S.D. = 0.64) ส่วนด้านที่มีค่า ความเหมาะสมต่ำสุด ได้แก่ ด้านการส่งต่อนักเรียน( = 3.40, S.D. = 0.59)

โพสต์โดย ทิวากร มีระหันนอก : [9 มิ.ย. 2561 เวลา 11:54 น.]
อ่าน [3539] ไอพี : 223.205.249.162
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 9,593 ครั้ง
สารอาหาร ที่เซลล์มะเร็งต้องการ
สารอาหาร ที่เซลล์มะเร็งต้องการ

เปิดอ่าน 206,552 ครั้ง
สรุปสูตรการคำนวณของสารละลาย : เคมี
สรุปสูตรการคำนวณของสารละลาย : เคมี

เปิดอ่าน 13,664 ครั้ง
วันนี้คุณบำรุงผิวหน้าด้วยอโลเวร่าหรือยัง ?
วันนี้คุณบำรุงผิวหน้าด้วยอโลเวร่าหรือยัง ?

เปิดอ่าน 42,261 ครั้ง
กินไข่สุก ๆ ดิบ ๆ มีโทษ
กินไข่สุก ๆ ดิบ ๆ มีโทษ

เปิดอ่าน 16,828 ครั้ง
ตายเยอะแม้ป้องกันได้ มะเร็งปากมดลูก
ตายเยอะแม้ป้องกันได้ มะเร็งปากมดลูก

เปิดอ่าน 8,630 ครั้ง
"กับดักส้มสอดไส้ตะปู" ที่แท้มาจากประเทศ......
"กับดักส้มสอดไส้ตะปู" ที่แท้มาจากประเทศ......

เปิดอ่าน 13,951 ครั้ง
บูชาแล้วรวย
บูชาแล้วรวย

เปิดอ่าน 13,898 ครั้ง
ไม่ใช่แค่ไอคิว!! สร้างเด็กไทยพันธุ์ใหม่ "เก่ง-ฉลาด-ดี" ต้อง "ฝึกทักษะสมอง EF"
ไม่ใช่แค่ไอคิว!! สร้างเด็กไทยพันธุ์ใหม่ "เก่ง-ฉลาด-ดี" ต้อง "ฝึกทักษะสมอง EF"

เปิดอ่าน 28,199 ครั้ง
วิธียืดเส้นก่อนออกกำลังกาย
วิธียืดเส้นก่อนออกกำลังกาย

เปิดอ่าน 9,992 ครั้ง
จุฬาฯ ฉลอง อันดับ 138 มหาวิทยาลัย ชั้นนำของโลก
จุฬาฯ ฉลอง อันดับ 138 มหาวิทยาลัย ชั้นนำของโลก

เปิดอ่าน 15,720 ครั้ง
คลิปแนะนำวิธีระบายความร้อนรถตากแดดแบบเร่งด่วน แบบนี้ต้องลอง
คลิปแนะนำวิธีระบายความร้อนรถตากแดดแบบเร่งด่วน แบบนี้ต้องลอง

เปิดอ่าน 10,352 ครั้ง
7 วิธี เอาชนะริ้วรอย
7 วิธี เอาชนะริ้วรอย

เปิดอ่าน 14,403 ครั้ง
ทำไมต้องจ้างทำการบ้าน (ชมคลิป)
ทำไมต้องจ้างทำการบ้าน (ชมคลิป)

เปิดอ่าน 74,661 ครั้ง
รวมกฏกระทรวงศึกษาธิการ
รวมกฏกระทรวงศึกษาธิการ

เปิดอ่าน 12,839 ครั้ง
จะให้ลูกเก่งเลข ต้องออกกำลัง
จะให้ลูกเก่งเลข ต้องออกกำลัง

เปิดอ่าน 10,855 ครั้ง
อภิปัญหาหนี้ครู...ปมที่แก้ไม่ตก 11 ปีลุกลาม 1.2 ล้านล้าน
อภิปัญหาหนี้ครู...ปมที่แก้ไม่ตก 11 ปีลุกลาม 1.2 ล้านล้าน
เปิดอ่าน 17,068 ครั้ง
ข้าวโพดสีม่วง ช่วยต้านมะเร็ง
ข้าวโพดสีม่วง ช่วยต้านมะเร็ง
เปิดอ่าน 19,268 ครั้ง
เรื่องจริงของสังคมโลก "สังคมก้มหน้า" ดูกันเลยว่าจริงไหม?
เรื่องจริงของสังคมโลก "สังคมก้มหน้า" ดูกันเลยว่าจริงไหม?
เปิดอ่าน 15,177 ครั้ง
10 เคล็ดลับเลิกบุหรี่
10 เคล็ดลับเลิกบุหรี่
เปิดอ่าน 3,680 ครั้ง
กรมอนามัยแนะนำเด็กไทย ดื่มนมจืด 2 แก้ว ทุกวัน เพิ่มความสูงได้
กรมอนามัยแนะนำเด็กไทย ดื่มนมจืด 2 แก้ว ทุกวัน เพิ่มความสูงได้

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ