ชื่อเรื่อง การพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้วิธีการสอน
แบบ Active Learning ด้วยกระบวนการเรียนรู้ 5 ขั้นตอน (5 STEPs)
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
ผู้ศึกษา นางบังอร โคตรสาขา วิลเลี่ยมส์
สถานศึกษา โรงเรียนพิบูลย์รักษ์พิทยา อำเภอพิบูลย์รักษ์ จังหวัดอุดรธานี
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 20
ปีที่ศึกษา 2560
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1. เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้วิธีการสอนแบบ Active Learning ด้วยกระบวนการเรียนรู้ 5 ขั้นตอน (5 STEPs) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 2. เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้วิธีการสอนแบบ Active Learning ด้วยกระบวนการเรียนรู้ 5 ขั้นตอน (5 STEPs) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 3. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนพิบูลย์รักษ์พิทยา อำเภอ พิบูลย์รักษ์ จังหวัดอุดรธานี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 20 ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้วิธีการสอนแบบ Active Learning ด้วยกระบวนการเรียนรู้ 5 ขั้นตอน (5 STEPs) 4. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้วิธีการสอนแบบ Active Learning ด้วยกระบวนการเรียนรู้ 5 ขั้นตอน (5 STEPs)
ประชากรที่ใช้ในการศึกษา คือนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 106 คน จากทั้งหมด 3 ห้องเรียนที่เรียนอยู่ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนพิบูลย์รักษ์พิทยา อำเภอพิบูลย์รักษ์ จังหวัดอุดรธานี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 20 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา คือนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/1 โรงเรียนพิบูลย์รักษ์พิทยา อำเภอพิบูลย์รักษ์ จังหวัดอุดรธานี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 20 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 37 คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) โดยการจับสลาก
เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ จำนวน 10 เล่ม แผนการจัดการเรียนรู้ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน มีค่าความยากง่าย (p) ตั้งแต่ 0.47 ถึง 0.77 ค่าอำนาจจำแนกของข้อสอบรายข้อ (r) ตั้งแต่ 0.27 ถึง 0.73 และค่าความเชื่อมั่น ของแบบทดสอบทั้งฉบับเท่ากับ 0.92 โดยใช้สูตรของ KR20 คูเดอร์ ริชาร์ดสัน และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อบทเรียนสำเร็จรูป สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย เลขคณิต ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและทดสอบสมมติฐานโดยใช้ค่า t-test (Dependent Sample)
ผลการศึกษาพบว่า
1. แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้วิธีการสอนแบบ Active Learning ด้วยกระบวนการเรียนรู้ 5 ขั้นตอน (5 STEPs) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่ผู้วิจัยได้จัดทำขึ้น มีค่าประสิทธิภาพ 76.55/78.18 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 75/75
2. ดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้วิธีการสอนแบบ Active Learning ด้วยกระบวนการเรียนรู้ 5 ขั้นตอน (5 STEPs) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.6717 แสดงว่านักเรียนได้รับการพัฒนามีความรู้เพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 0.67
3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้วิธีการสอนแบบ Active Learning ด้วยกระบวนการเรียนรู้ 5 ขั้นตอน (5 STEPs) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้วิธีการสอนแบบ Active Learning ด้วยกระบวนการเรียนรู้ 5 ขั้นตอน (5 STEPs) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยรวมอยู่ในระดับมาก