ชื่อเรื่อง รายงานการพัฒนาชุดฝึกทักษะการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ ที่เน้นกระบวนการคัดสรร
กลวิธีการสอน และความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖
ผู้รายงาน นางณัฐิฎา มุสิกวงศ์
ปีที่วิจัย พ.ศ. ๒๕๖๐
บทคัดย่อ
รายงานการพัฒนาชุดฝึกทักษะการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ ที่เน้นกระบวนการคัดสรร
กลวิธีการสอน และความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์
ของการศึกษาเพื่อ ๑) สร้างและหาประสิทธิภาพชุดฝึกทักษะการอ่านอย่างมีวิจารณญาณที่เน้นกระบวนการคัดสรรกลวิธีการสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ ตามเกณฑ์มาตรฐาน E๑/E๒ = ๘๐/๘๐ ๒) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ โดยใช้ชุดฝึกทักษะการอ่านอย่างมีวิจารณญาณที่เน้นกระบวนการคัดสรรกลวิธีการสอน ๓) ศึกษาดัชนีประสิทธิผลของชุดฝึกทักษะการอ่านอย่างมีวิจารณญาณที่เน้นกระบวนการคัดสรรกลวิธีการสอน และ ๔) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ ทีมีต่อการใช้ชุดฝึกทักษะการอ่านอย่างมีวิจารณญาณที่เน้นกระบวนการคัดสรรกลวิธีการสอน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษา
ปีที่ ๖/๒ ภาคเรียน ที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๐ โรงเรียนเทศบาลบ้านคูหาสวรรค์ เทศบาลเมืองพัทลุง จังหวัดพัทลุง จำนวน ๔๕ คน ได้มาโดยการการสุ่มอย่างง่ายด้วยวิธีจับสลาก (Simple Random Sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยการสุ่ม ระยะเวลาที่ใช้ดำเนินการศึกษาครั้งนี้ เป็นการดำเนินการศึกษาในภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๐ ระหว่างวันที่ ๓ - ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๐ รวม ๑๕ ชั่วโมง ทั้งนี้ไม่รวมการปฐมนิเทศ และการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้มี ๔ ชนิด ได้แก่ ๑) ชุดฝึกทักษะการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ สำหรับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ จำนวน ๑๕ ชุด ๒) คู่มือการสอนทักษะการอ่านอย่างมีวิจารณญาณที่เน้นกระบวนการคัดสรรกลวิธีการสอน จำนวน ๑๕ แผน โดยแต่ละแผนการสอนใช้เวลาในการสอน จำนวน ๑ ชั่วโมง รวมเป็น ๑๕ ชั่วโมง ๓) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์การอ่านอย่างมีวิจารณญาณเพื่อใช้เป็นแบบทดสอบก่อนเรียน และหลังเรียน เป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ ๔ ตัวเลือก จำนวน ๓๐ ข้อ
มีค่าความยากง่าย ตั้งแต่ ๐.๒๒ ถึง ๐.๙๒ ค่าอำนาจจำแนก ตั้งแต่ ๐.๒๖ ถึง ๐.๘๐ และมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ ๐.๙๖ และ ๔) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนต่อการเรียนโดยใช้ชุดฝึกทักษะการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ จำนวน ๑ ชุด สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล
คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และการทดสอบสมมติฐานใช้ t - test for dependent Samples)
ผลการศึกษาพบว่า
๑. ชุดฝึกทักษะการอ่านอย่างมีวิจารณญาณที่เน้นกระบวนการคัดสรรกลวิธีการสอน
มีประสิทธิภาพ E๑/E๒ = ๘๗.๕๔/๘๒.๒๓ ผ่านเกณฑ์ประสิทธิภาพ ๘๐/๘๐ ที่ตั้งไว้
๒. นักเรียนที่ได้รับการสอนโดยใช้ชุดฝึกทักษะการอ่านอย่างมีวิจารณญาณที่เน้นกระบวนการคัดสรรกลวิธีการสอน มีคะแนนหลังสอนสูงกว่าก่อนสอนแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ
ทางสถิติที่ระดับ .๐๑
๓. ชุดฝึกทักษะการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ มีค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ ๐.๔๔๕๗ หมายความว่า ผู้เรียนมีความรู้เพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ ๔๔.๕๗
๔. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนโดยใช้ชุดฝึกทักษะการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ ที่เน้นกระบวนการคัดสรรกลวิธีการสอนโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = ๔.๖๒,S.D.= ๐.๕๕) โดยนักเรียนมีความพึงพอใจใกล้เคียงกัน เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจ อยู่ในระดับมากที่สุดทุกด้าน เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่านักเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก ๔ ข้อ คือ ด้านเนื้อหา ๒ ข้อ ได้แก่ เนื้อหาที่เรียนไม่ยากเกินไป และเรื่องที่เรียนเป็นเรื่องเกี่ยวกับชีวิตประจำวัน ด้านการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ๒ ข้อ ได้แก่ ฉันพอใจที่ได้เลือกวิธีการค้นหาคำตอบด้วยตนเอง และฉันได้ฝึกทักษะต่างๆ จนมีความมั่นใจ และกล้าแสดงออก นอกจากนั้นนักเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด