|
|
การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง กราฟของฟังก์ชันและการแก้ปัญหา โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
ชื่อผู้วิจัย : นายชัชวาล มั่นคง ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ
ปีการศึกษา: 2560
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1) พัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง กราฟของฟังก์ชันและ การแก้ปัญหา โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) หาค่าดัชนีประสิทธิผลของชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง กราฟของฟังก์ชันและการแก้ปัญหา โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) สำหรับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 4 ให้ได้ตามเกณฑ์ 0.5 3) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง กราฟของฟังก์ชันและการแก้ปัญหา โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) และ 4) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อการเรียนด้วย ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง กราฟของฟังก์ชันและการแก้ปัญหา โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนนารายณ์คำผงวิทยา อำเภอโนนนารายณ์ จังหวัดสุรินทร์ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การวิจัยมัธยมวิจัย เขต 33 จำนวน 1 ห้องเรียน จำนวน 37 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบแบ่งกลุ่ม (Cluster Random Sampling) รูปแบบการวิจัยแบบ One Group Pretest Posttest Design เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง กราฟของฟังก์ชันและการแก้ปัญหา โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) จำนวน 15 ชุด 2) แผนการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง กราฟของฟังก์ชันและการแก้ปัญหา จำนวน 18 แผนการจัดการเรียนรู้ 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 30 ข้อ และ 4) แบบวัดความพึงพอใจที่มีต่อการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง กราฟของฟังก์ชันและการแก้ปัญหาเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับจำนวน 20 ข้อ เวลาที่ใช้ในการทดลอง จำนวน 18 ชั่วโมง สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที (t-test dependent) ผลการวิจัยพบว่า 1. ประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง กราฟของฟังก์ชันและการแก้ปัญหา โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มีประสิทธิภาพ เท่ากับ 81.45/82.52 เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้คือ 80/80 2. ค่าดัชนีประสิทธิผลของชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง กราฟของฟังก์ชันและการแก้ปัญหา โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) สำหรับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มีค่าเท่ากับ 0.7083 ซึ่งหมายความว่าคะแนนของนักเรียนเพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ 70.83 3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 4. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง กราฟของฟังก์ชันและการแก้ปัญหา โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) โดยรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก ( = 4.43, S.D. = 0.78) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่านักเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากทุกด้านเช่นกัน โดยเรียงลำดับจากมากไปหาน้อยดังนี้ 1) ด้านรูปแบบของชุดกิจกรรม 2) ด้านการจัดการเรียนการสอน 3) ด้านการวัดผลประเมินผล และ 4) ด้านเนื้อหา เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่ามีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด 7 ข้อ โดยเรียงลำดับจากมากไปหาน้อยดังนี้ 1) รู้สึกสนุกกับการเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรม 2) น่าสนใจ สวยงาม 3) กิจกรรมเรียงลำดับจากง่ายไปยาก 4) ภาพประกอบชัดเจน เข้าใจง่าย 5) ชุดกิจกรรมสอดคล้องกับเนื้อหาและจุดประสงค์ 6) เกี่ยวข้องและเห็นในชีวิตประจำวัน และ 7) มีความอยากเรียนคณิตศาสตร์มากขึ้น และมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก 13 ข้อ
|
โพสต์โดย ชัช : [7 มิ.ย. 2561 เวลา 21:58 น.] อ่าน [5285] ไอพี : 223.206.234.38
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 15,433 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,304 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,565 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,857 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,282 ครั้ง
| เปิดอ่าน 162,031 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,799 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,584 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,387 ครั้ง
| เปิดอ่าน 79,541 ครั้ง
| เปิดอ่าน 30,697 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,668 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,367 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,194 ครั้ง
| เปิดอ่าน 19,133 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 9,595 ครั้ง
| เปิดอ่าน 7,769 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,960 ครั้ง
| เปิดอ่าน 17,643 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,362 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|