ชื่อเรื่อง การพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง เศษส่วน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
ผู้รายงาน นางสาวประภาพร แดงดา
หน่วยงาน โรงเรียนบ้านท่าโป่ง อำเภอหนองบัวระเหว สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ประถมศึกษาชัยภูมิ เขต 3
ที่ปรึกษา นายไพโรจน์ เคนวิเศษ
ปีที่พิมพ์ ปีการศึกษา 2560
บทคัดย่อ
การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่มีคุณภาพและเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ผู้สอนจะต้องจัดกิจกรรมเพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีความรู้ความสามารถ มีเหตุผล มีความคิดสร้างสรรค์รู้วิธีแก้ปัญหาและนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างมีคุณค่า การศึกษาครั้งนี้จึงมี วัตถุประสงค์ของการรายงานเพื่อ (1) เพื่อพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง เศษส่วน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 (2) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง เศษส่วน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 (3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนประถมศึกษาปีที่ 5 ที่เรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง เศษส่วน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ก่อนเรียนและหลังเรียน (4) ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง เศษส่วน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มเป้าหมาย เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านท่าโป่ง จังหวัดชัยภูมิ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 25 คน คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าประกอบด้วย แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง เศษส่วน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 16 แผน ทำการสอนแผนละ 1 ชั่วโมง รวม 16 ชั่วโมง แบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง เศษส่วน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 7 เล่ม รวม 16 ชั่วโมง แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 30 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนกรายข้อ (B) ตั้งแต่ .29 ถึง .69 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ(rcc)เท่ากับ .86 และแบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ ซึ่งเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) แบ่งระดับความคิดเห็นเป็น 5 ระดับ คือ เห็นด้วยมากที่สุด เห็นด้วยมาก เห็นด้วยปานกลาง เห็นด้วยน้อย และเห็นด้วยน้อยที่สุด จำนวน 1 ชุด ประกอบด้วยข้อคำถาม 20 ข้อ มีค่าดัชนีความสอดคล้องรายข้อ (rxy) ตั้งแต่ 0.27 ถึง 0.73 มีค่าความเชื่อมั่น ทั้งฉบับเท่ากับ .87 และสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล สถิติพื้นฐานได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบสมมุติฐานด้วยสถิติ t-test (dependent Samples)
ผลการศึกษาค้นคว้าปรากฏดังนี้
1. แบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องเศษส่วน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่ผู้รายงานสร้างขึ้น มีประสิทธิภาพ (E1/E2) เท่ากับ 82.02/85.07 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้ คือ 75/75
2. ดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องเศษส่วน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่ผู้รายงานสร้างขึ้น มีค่าเท่ากับ 0.7037 หรือคิดเป็นร้อยละ 70.37 ซึ่งแสดงว่า นักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้นจากก่อนเรียน ร้อยละ 73.59
3. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องเศษส่วน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์มีคะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีความพึงพอใจต่อการเรียน โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องเศษส่วน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ในระดับมากที่สุด โดยเฉลี่ย 4.57
โดยสรุป การจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ ช่วยพัฒนาการเรียน การสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ส่งผลให้ผู้เรียนพัฒนาความสามารถในการคิดวิเคราะห์ ควบคู่ไปกับการเจตคติของผู้เรียน และสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในสาระวิชาอื่นให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นต่อไป