ชื่อเรื่อง รายงานการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลักภาษาและการใช้ภาษาไทย กลุ่มสาระการ
เรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะหลักภาษาและการใช้ภาษาไทย
ผู้ศึกษา นางวิภาทิพย์ เรืองหิรัณเตชะกูล ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะชำนาญการ
โรงเรียนโคกสูงใหญ่วิทยา อำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต ๔
ปีที่ศึกษา ปีการศึกษา ๒๕๕๙
บทคัดย่อ
รายงานการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลักภาษาและการใช้ภาษาไทย กลุ่มสาระการ
เรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะหลักภาษาและการใช้ภาษาไทย มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ ๑) เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลักภาษาและการใช้ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ของผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะหลักภาษาและการใช้ภาษาไทย ให้จำนวนผู้เรียนไม่น้อยกว่าร้อยละ ๘๐ ของจำนวนผู้เรียนทั้งหมด มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ตั้งแต่ร้อยละ ๘๐ ของคะแนนเต็มขึ้นไป ๒) เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของแบบฝึกเสริมทักษะหลักภาษาและการใช้ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ ๘๐ / ๘๐ ๓) เพื่อหาค่าดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกเสริมทักษะหลักภาษาและการใช้ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ๔) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของผู้เรียนต่อการเรียนรู ด้วยแบบฝึกเสริมทักษะหลักภาษาและการใช้ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ โดยใช้รูปแบบการวิจัยเชิงปฏิบัติการ (Action Research) ทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน (One Group Pretest Posttest Design) กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ ผู้เรียนที่กำลังศึกษาอยู่ในชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๕๙ โรงเรียนโคกสูงใหญ่วิทยา อำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต ๔ จำนวน ๒๖ คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ประกอบด้วย ๑) แบบฝึกเสริมทักษะหลักภาษาและการใช้ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ จำนวน ๕ เล่ม ๒) แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน ๒๑ แผน ๒๑ ชั่วโมง ๓) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ ชนิดเลือกตอบ ๔ ตัวเลือก ๑ คำตอบ จำนวน ๑ ฉบับ ๔๐ ข้อ ซึ่งมีค่าความยาก (P) ตั้งแต่ ๐.๓๑ ถึง ๐.๖๙ และค่าอำนาจจำแนก (r) ตั้งแต่ ๐.๒๕ ถึง ๑.๐๐ และมีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ ๐.๘๒ ๔) แบบสอบถามความพึงพอใจ เป็นแบบสอบถามชนิดมาตราส่วนประมาณค่า ๕ ระดับ จำนวน ๑๐ ข้อ สถิติที่ใช้การวิเคราะห์หาประสิทธิภาพ ผลการทดสอบก่อนและหลังเรียน และค่าความคงทนในการเรียนรู้ ใช้ค่าเฉลี่ย ( ) ค่าร้อยละ (%) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และการทดสอบค่า t (Dependent t test)
ผลการวิจัยพบว่า
๑) ผลการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้หลักภาษาและการใช้ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ของผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะหลักภาษาและการใช้ภาษาไทย จำนวน ๒๖ คน พบว่า คะแนนทดสอบหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .๐๕ ผู้เรียนทั้งชั้นได้คะแนนหลังเรียนเฉลี่ย ๓๕.๑๕ คะแนน จากคะแนนเต็ม ๔๐ คะแนน คิดเป็นร้อยละ ๘๗.๘๘ มีผู้เรียนผ่านเกณฑ์ ๒๖ คน ของจำนวนผู้เรียนทั้งหมด คิดเป็นร้อยละ ๑๐๐.๐๐ ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด คือ มีจำนวนผู้เรียนไม่น้อยกว่าร้อยละ ๘๐ ของจำนวนผู้เรียนทั้งหมดมีคะแนนร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป
๒) ผลการหาประสิทธิภาพของแบบฝึกเสริมทักษะหลักภาษาและการใช้ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ พบว่า มีประสิทธิภาพเท่ากับ ๘๘.๐๘ / ๘๗.๘๘ ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ที่ ๘๐ / ๘๐
๓) ผลการหาค่าดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกเสริมทักษะหลักภาษาและการใช้ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ พบว่า ด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ เท่ากับ ๐.๘๐๐๖ แสดงว่าผู้เรียนมีความก้าวหน้าด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ คิดเป็นร้อยละ ๘๐.๐๖
๔) ผลศึกษาความพึงพอใจ ของผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะหลักภาษาและการใช้ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ จำนวน ๒๖ คน มีความพึงพอใจโดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (x̄ = ๔.๖๗, S.D. = ๐.๔๗)
โดยสรุป การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลักภาษาและการใช้ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะหลักภาษาและการใช้ภาษาไทย ครั้งนี้ ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้สูงขึ้น แบบฝึกเสริมทักษะหลักภาษาและการใช้ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ มีประสิทธิภาพต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้กับผู้เรียน ผู้เรียนมีความก้าวหน้าด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ และผู้เรียนมีความพึงพอใจมากที่สุด