ชื่อเรื่อง การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี
เรื่อง งานเกษตร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้เอกสารประกอบการเรียน
ผู้วิจัย นางวาทินี พลีศักดิ์ ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะชำนาญการ
โรงเรียนโคกสูงใหญ่วิทยา อำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 4
ปีที่วิจัย ปีการศึกษา 2560
บทคัดย่อ
การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี
เรื่อง งานเกษตร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้เอกสารประกอบการเรียน มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) เพื่อการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี เรื่อง งานเกษตร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้เอกสารประกอบการเรียน ให้จำนวนผู้เรียนไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของจำนวนผู้เรียนทั้งหมด มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ตั้งแต่ร้อยละ 80 ของคะแนนเต็มขึ้นไป 2) เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการเรียน เรื่อง งานเกษตร กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80 / 80 3) เพื่อหาค่าดัชนีประสิทธิผลของเอกสารประกอบการเรียน เรื่อง งานเกษตร กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจพึงพอใจของผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน โดยใช้เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง งานเกษตร กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้รูปแบบการวิจัยเชิงทดลอง (Experimental Research) ทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน (One Group Pretest Posttest Design) กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ ผู้เรียนที่กำลังศึกษาอยู่ในชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนโคกสูงใหญ่วิทยา อำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 4 จำนวน 26 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ประกอบด้วย 1) เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง งานเกษตร กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 5 เล่ม 2) แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 17 แผน 17 ชั่วโมง 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก 1 คำตอบ จำนวน 1 ฉบับ 40 ข้อ ซึ่งมีค่าความยาก (P) ตั้งแต่ 0.31 ถึง 0.69 และค่าอำนาจจำแนก (r) ตั้งแต่ 0.25 ถึง 1.00 และมีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.82 4) แบบสอบถามความพึงพอใจ เป็นแบบสอบถามชนิดมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 10 ข้อ สถิติที่ใช้การวิเคราะห์หาประสิทธิภาพ ผลการทดสอบก่อนและหลังเรียน และค่าความคงทนในการเรียนรู้ ใช้ค่าเฉลี่ย ( ) ค่าร้อยละ (%) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และการทดสอบค่า t (Dependent t test)
ผลการวิจัยพบว่า
1) ผลการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี เรื่อง งานเกษตร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้เอกสารประกอบการเรียน จำนวน 26 คน พบว่า คะแนนทดสอบหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .05 ผู้เรียนทั้งชั้นได้คะแนนหลังเรียนเฉลี่ย 39.23 คะแนน จากคะแนนเต็ม 40 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 87.88 มีผู้เรียนผ่านเกณฑ์ 26 คน ของจำนวนผู้เรียนทั้งหมด คิดเป็นร้อยละ 100.00 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด คือ มีจำนวนผู้เรียนไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของจำนวนผู้เรียนทั้งหมดมีคะแนนร้อยละ 80 ขึ้นไป
2) ผลการหาประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการเรียน เรื่อง งานเกษตร กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 พบว่า มีประสิทธิภาพเท่ากับ 88.08 / 87.88 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ที่ 80 / 80
3) ผลการหาค่าดัชนีประสิทธิผลของเอกสารประกอบการเรียน เรื่อง งานเกษตร กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 พบว่า ด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ เท่ากับ 0.8006 แสดงว่า ผู้เรียนมีความรู้เพิ่มขึ้นร้อยละ 80.06
4) ผลศึกษาความพึงพอใจของผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน โดยใช้เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง งานเกษตร กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 26 คน มีความพึงพอใจโดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
( x̄= 4.67, S.D. = 0.47)
โดยสรุป การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี เรื่อง งานเกษตร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้เอกสารประกอบการเรียน ครั้งนี้ ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้สูงขึ้น เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง งานเกษตร กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีประสิทธิภาพต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้กับผู้เรียน ผู้เรียนมีความก้าวหน้าด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ และผู้เรียนมีความพึงพอใจมากที่สุด