ผู้วิจัย นางอรอนงค์ ประจุทรัพย์
ปีที่วิจัย 2560
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) เพื่อพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะการเขียนคำศัพท์ภาษาอังกฤษ ชุด Learning from Words สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อพัฒนาทักษะการเขียนคำศัพท์ภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านกะดาด 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ด้านทักษะการเขียนคำศัพท์ภาษาอังกฤษหลังเรียนและก่อนเรียน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านกะดาด 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่ได้รับการสอนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะการเขียนคำศัพท์ภาษาอังกฤษ ชุด Learning from Words สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยที่เรียกว่า Quasi Experimental Design โดยใช้รูปแบบการทดลองแบบกึ่งทดลอง One-Group Pretest-Posttest Design เป็นการใช้กลุ่มทดลองกลุ่มเดียว มีการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/1 โรงเรียนบ้านกะดาด อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ ทั้ง 1 ห้องเรียน ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 10 คน เลือกนักเรียนโรงเรียนบ้านกะดาด เป็นกลุ่มตัวอย่างโดยการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ประกอบด้วย 1) แบบฝึกเสริมทักษะการเขียนคำศัพท์ภาษาอังกฤษ ชุด Learning from Words สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
2) แผนการจัดการเรียนรู้โดยแบบฝึกเสริมทักษะการเขียนคำศัพท์ภาษาอังกฤษ ชุด Learning from Words สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ด้านทักษะการเขียนคำศัพท์ภาษาอังกฤษ และ 4) แบบประเมินความพึงพอใจที่มีต่อการเรียนรู้ด้านทักษะการเขียนคำศัพท์ภาษาอังกฤษโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะชุด Learning from Words
การวิเคราะห์ข้อมูล วิเคราะห์โดยการคำนวณหาค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าพัฒนาการสัมพัทธ์ และการทดสอบค่าที (Dependent sample t-test)
ผลการวิจัยพบว่า
1. ประสิทธิภาพของแบบฝึกเสริมทักษะการเขียนคำศัพท์ภาษาอังกฤษ ชุด Learning from Words สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่พัฒนาขึ้น มีค่าเฉลี่ยร้อยละประสิทธิภาพ 93.57/ 94.75 สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด
2. ผลของพัฒนาการทางด้านทักษะการเขียนคำศัพท์ภาษาอังกฤษ โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะชุด Learning from Words สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยพิจารณาจากค่าแนวพัฒนาการสัมพัทธ์ มีค่าคะแนนพัฒนาการสัมพัทธ์อยู่ระหว่าง 80.65 100.00 ค่าเฉลี่ยคิดเป็น 92.89 ซึ่งถือว่ามีพัฒนาการมาก
3. ผลของการเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างคะแนนก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียน โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะการเขียนคำศัพท์ภาษาอังกฤษ ชุด Learning from Words สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 นักเรียนมีค่าคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียนเท่ากับ 11.50 คิดเป็นร้อยละ 28.75 ค่าคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนเท่ากับ 37.90 คิดเป็นร้อยละ 94.75 และพบว่าคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ .05
4. การศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะการเขียนคำศัพท์ภาษาอังกฤษ ชุด Learning from Words สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 พบว่าคะแนนเฉลี่ยความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาคะแนนเฉลี่ยความพึงพอใจในแต่ละด้านได้แก่ ด้านสื่อการเรียนการสอน ด้านประโยชน์ที่ได้จากการเรียนรู้ ด้านการวัดและประเมินผล ด้านการจัดการเรียนรู้ และ ด้านเนื้อหา อยู่ในระดับพึงพอใจมากที่สุด