ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
พัฒนารูปแบบการนิเทศเพื่อพัฒนาครูในการจัดการเรียนรู้บูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ของครูโรงเรี

การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) วิเคราะห์สภาพ ปัญหา และความต้องการพัฒนาครูในการจัดการเรียนรู้บูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ของครูโรงเรียนเขาใหญ่พิทยาคม 2) ออกแบบและพัฒนารูปแบบการนิเทศเพื่อพัฒนาครูในการจัดการเรียนรู้บูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ของครูโรงเรียนเขาใหญ่พิทยาคม 3) ศึกษาผลการใช้รูปแบบการนิเทศเพื่อพัฒนาครูในการจัดการเรียนรู้บูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ของครูโรงเรียนเขาใหญ่พิทยาคม และ 4) ประเมินผลและปรับปรุงรูปแบบการนิเทศเพื่อพัฒนาครูในการจัดการเรียนรู้บูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ของครูโรงเรียนเขาใหญ่พิทยาคม กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัย คือ ครูกลุ่มสาระการเรียนรู้ละ 1 คน รวม 8 คน และนักเรียนจำนวน 262 คน ของโรงเรียนเขาใหญ่พิทยาคม ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 ดำเนินการวิจัยด้วยวิธีการวิจัยและพัฒนา การวิจัยกึ่งทดลอง (Quasi-Experimental Research) แบบแผนการวิจัยเป็นแบบขั้นพื้นฐาน (Pre-Experimental Designs) แบบการวิจัย แบบหนึ่งกลุ่มสอบก่อนสอบหลัง (The one–Group Pretest–Posttest Design) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย แบบสอบถาม แบบสัมภาษณ์ แบบทดสอบ แบบประเมิน แบบบันทึก แบบตรวจสอบ แบบรายงาน และประเด็นการสนทนากลุ่ม ที่ผ่านการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที (Dependent t-test) และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)

ผลการวิจัย พบว่า

1. ผลการวิเคราะห์สภาพ ปัญหา และความต้องการ ดังนี้ สภาพการนิเทศเพื่อพัฒนาครูในการจัดการเรียนรู้บูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มีระดับการปฏิบัติปานกลาง ส่วนสภาพปัญหาการนิเทศมีปัญหาปานกลาง ด้านการจัดการเรียนรู้บูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ในภาพรวมเป็นปัญหาในอันดับสูงสุด และสำหรับความต้องการการนิเทศมีความต้องการสูง ด้านการจัดการเรียนรู้บูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ในภาพรวม ครูมีความต้องการในอันดับสูงสุด ซึ่งข้อมูลจากการสอบถามและสัมภาษณ์มีความสอดคล้องกัน

2. ผลของการออกแบบและพัฒนา ทำให้ได้ร่างรูปแบบการนิเทศเพื่อพัฒนาครูในการจัดการเรียนรู้บูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งประกอบด้วยองค์ประกอบ 5 องค์ประกอบ คือ 1) องค์ประกอบเชิงหลักการและวัตถุประสงค์ 2) องค์ประกอบเชิงกิจกรรมการนิเทศ/เนื้อหา ได้แก่ ความรู้ความเข้าใจในหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และการจัดการเรียนรู้บูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 3) องค์ประกอบเชิงกระบวนการนิเทศ มีกระบวนการนิเทศ 5 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นตอนที่ 1 ร่วมสร้างความตระหนัก (Co-building awareness) ขั้นตอนที่ 2 ร่วมคิดและวางแผน (Co-planning) ขั้นตอนที่ 3 ร่วมพัฒนา (Co-development activities) ขั้นตอนที่ 4 ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ (Co-organizing knowledge) และขั้นตอนที่ 5 ร่วมเผยแพร่สู่มวลชน (Co-appreciation and social communication) 4) องค์ประกอบเชิงการวัดผลและประเมินผล ได้แก่ การวัดผลและประเมินผลก่อนการนิเทศ การวัดผลและประเมินผลระหว่างการนิเทศ การวัดผลและประเมินผลหลังการนิเทศ และการสรุปและเผยแพร่ และ 5) องค์ประกอบเชิงปัจจัยที่เอื้อต่อการนำรูปแบบการนิเทศไปใช้ ได้แก่ สามัตถิยะผู้ชี้แนะ (Coach Competence) ประกอบด้วย 4 องค์ประกอบ ได้แก่ การสร้างความสัมพันธ์ทางสังคม ทักษะการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ การเป็นผู้อำนวยความสะดวก และการเป็นผู้รับผิดชอบสูง การสนับสนุนด้านสื่อ วัสดุ อุปกรณ์ในการจัดการเรียนรู้ (Material Support) สำหรับผลของการตรวจสอบคุณภาพของรูปแบบการนิเทศเพื่อพัฒนาครูในการจัดการเรียนรู้

บูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง พบว่า ค่าดัชนีความสอดคล้องของความสมเหตุสมผลเชิงทฤษฎี มีค่าอยู่ระหว่าง 0.60–1.00 ค่าดัชนีความสอดคล้องของความเป็นไปได้ มีค่าอยู่ระหว่าง 0.80-1.00 และ ค่าดัชนีความสอดคล้องของความสอดคล้องของร่างต้นแบบรูปแบบ มีค่า 1.00 ทุกข้อ

3. ผลการใช้รูปแบบการนิเทศเพื่อพัฒนาครูในการจัดการเรียนรู้บูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มีผลการประเมิน ดังนี้ 3.1) ผลการประเมินความรู้ ความเข้าใจของครู พบว่า ครูมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้บูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยหลังการใช้รูปแบบมีคะแนนเฉลี่ยสูงกว่าก่อนการใช้รูปแบบ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3.2) ผลการประเมินพฤติกรรมที่แสดงออกถึงการจัดการเรียนรู้บูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยครูประเมินตนเอง หลังใช้รูปแบบการนิเทศเพื่อพัฒนาครูในการจัดการเรียนรู้บูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยแยกเป็นรายข้อ ในภาพรวม พบว่า มีพฤติกรรมที่แสดงออกอยู่ในระดับสูง และผลการประเมินพฤติกรรมที่แสดงออกถึงการจัดการเรียนรู้บูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยแยกเป็นรายบุคคล ในภาพรวม พบว่า มีพฤติกรรมที่แสดงออกอยู่ในระดับสูง 3.3) ผลการประเมินความสามารถของครูเกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้บูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยผู้วิจัยเป็นผู้ประเมิน พบว่า ครูมีความสามารถเกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้ โดยหลังการใช้รูปแบบมีคะแนนสูงกว่าก่อนการใช้รูปแบบ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และจากบันทึกการนิเทศ พบว่า ครูมีการพัฒนาเกี่ยวกับการวิเคราะห์หลักสูตร การเขียนแผนการจัดการเรียนรู้ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับแผนการจัดการเรียนรู้และบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 3.4) ผล

การประเมินคุณภาพแผนการจัดการเรียนรู้บูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ระหว่างการใช้รูปแบบ โดยผู้วิจัยประเมิน ในภาพรวม พบว่า คุณภาพแผนการจัดการเรียนรู้บูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงอยู่ในระดับคุณภาพสูง และเมื่อพิจารณาแผนการจัดการเรียนรู้ของครูเป็นรายบุคคล พบว่า คุณภาพแผนการจัดการเรียนรู้บูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงอยู่ในระดับสูงทุกคน 3.5) ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน พบว่า ทั้งแผนการจัดการเรียนรู้ 8 หน่วยการเรียนรู้ มีคะแนนหลังเรียนสูงกว่าคะแนนก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3.6) ผลการศึกษาความพึงพอใจของครูที่มีต่อรูปแบบ พบว่า ครูมีความพึงพอใจต่อรูปแบบการนิเทศเพื่อพัฒนาครูในการจัดการเรียนรู้บูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด สอดคล้องกับผลการวิเคราะห์ประเด็นการสนทนากลุ่ม 3.7) ผลการศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ของครู เมื่อพิจารณาครูเป็นรายบุคคล พบว่า นักเรียนมีความคิดเห็นต่อการจัดการเรียนรู้ของครูทุกคนอยู่ในระดับเห็นด้วยมาก และเมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ทุกด้านนักเรียนมีความคิดเห็นต่อการจัดการเรียนรู้ของครูทุกคนอยู่ในระดับเห็นด้วยมาก และ 3.8) ผลการประเมินการจัดการเรียนรู้บูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงตามโครงการโรงเรียนพอเพียงท้องถิ่น ของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย พบว่า มีคุณภาพอยู่ในระดับดีเยี่ยมทุกด้าน ทุกองค์ประกอบ และทุกตัวบ่งชี้

4. ผลการปรับปรุงรูปแบบ จากผลการวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้จากการทดลองใช้รูปแบบการนิเทศเพื่อพัฒนาครูในการจัดการเรียนรู้บูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ในขั้นตอนที่ 3 ของการวิจัย ผู้วิจัยได้พิจารณาแก้ไขปรับปรุงรูปแบบการนิเทศเพื่อพัฒนาครูในการจัดการเรียนรู้บูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อให้รูปแบบมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เมื่อนำไปใช้ในสถานการณ์จริงได้

โพสต์โดย NTK : [28 พ.ค. 2561 เวลา 15:59 น.]
อ่าน [4371] ไอพี : 61.19.123.218
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 21,455 ครั้ง
ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างองค์ประกอบของตัวแปรปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อคุณภาพชีวิตการทำงานของครูในจังหวัดนค
ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างองค์ประกอบของตัวแปรปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อคุณภาพชีวิตการทำงานของครูในจังหวัดนค

เปิดอ่าน 8,782 ครั้ง
โรคสมองเสื่อมกับมะเร็งกลายเป็นคู่กัดกันเองต่างปราบกันและกัน
โรคสมองเสื่อมกับมะเร็งกลายเป็นคู่กัดกันเองต่างปราบกันและกัน

เปิดอ่าน 14,262 ครั้ง
มหกรรม "ติว" สนองตัณหาใคร เด็กได้อะไร
มหกรรม "ติว" สนองตัณหาใคร เด็กได้อะไร

เปิดอ่าน 10,958 ครั้ง
อภิปัญหาหนี้ครู...ปมที่แก้ไม่ตก 11 ปีลุกลาม 1.2 ล้านล้าน
อภิปัญหาหนี้ครู...ปมที่แก้ไม่ตก 11 ปีลุกลาม 1.2 ล้านล้าน

เปิดอ่าน 29,643 ครั้ง
หลักสูตรการสอบภาค ข ครูผู้ช่วย สพฐ. ตามหนังสือ ว14/2558
หลักสูตรการสอบภาค ข ครูผู้ช่วย สพฐ. ตามหนังสือ ว14/2558

เปิดอ่าน 12,399 ครั้ง
"กะเพรา" ราชินีสมุนไพร โบราณเชื่อช่วยให้อายุยืน
"กะเพรา" ราชินีสมุนไพร โบราณเชื่อช่วยให้อายุยืน

เปิดอ่าน 14,122 ครั้ง
การเลี้ยงไก่ไข่
การเลี้ยงไก่ไข่

เปิดอ่าน 10,962 ครั้ง
5 อาชีพที่ทำได้แม้อยู่บ้าน
5 อาชีพที่ทำได้แม้อยู่บ้าน

เปิดอ่าน 17,404 ครั้ง
ต้นไม้อะไรเหมาะกับ วันเกิดของคุณ
ต้นไม้อะไรเหมาะกับ วันเกิดของคุณ

เปิดอ่าน 13,440 ครั้ง
คลิปสุดฮา ฝรั่งเผยโดนคนไทยด่าครั้งแรก
คลิปสุดฮา ฝรั่งเผยโดนคนไทยด่าครั้งแรก

เปิดอ่าน 83,211 ครั้ง
สุภาษิต-คำพังเพยเข้าถึงเด็กไทย แนะใช้บ่อย-สื่อเห็นภาพจริง
สุภาษิต-คำพังเพยเข้าถึงเด็กไทย แนะใช้บ่อย-สื่อเห็นภาพจริง

เปิดอ่าน 12,423 ครั้ง
ผักสีสดช่วยคุณฟิตได้
ผักสีสดช่วยคุณฟิตได้

เปิดอ่าน 10,733 ครั้ง
ชำแหละ "แชร์ลูกโซ่" ธุรกิจหลอกฟันเงิน
ชำแหละ "แชร์ลูกโซ่" ธุรกิจหลอกฟันเงิน

เปิดอ่าน 6,949 ครั้ง
ไทยมีอัตราการเติบโตของการใช้อินเทอร์เน็ต สูงเป็นอันดับ 1 ของโลก
ไทยมีอัตราการเติบโตของการใช้อินเทอร์เน็ต สูงเป็นอันดับ 1 ของโลก

เปิดอ่าน 17,627 ครั้ง
7 วิธี"เอื้อเฟื้อ"เพื่อนบ้านอย่างง่าย พลิกให้ชุมชนน่าอยู่
7 วิธี"เอื้อเฟื้อ"เพื่อนบ้านอย่างง่าย พลิกให้ชุมชนน่าอยู่

เปิดอ่าน 11,824 ครั้ง
แบคทีเรียกินเนื้อคน แพทย์แนะล้างแผลฆ่าเชื้อโรคทันที หากถูกก้างปลาตำ
แบคทีเรียกินเนื้อคน แพทย์แนะล้างแผลฆ่าเชื้อโรคทันที หากถูกก้างปลาตำ
เปิดอ่าน 10,793 ครั้ง
อยู่อย่างไรให้ห่างไกล มะเร็งเต้านม
อยู่อย่างไรให้ห่างไกล มะเร็งเต้านม
เปิดอ่าน 8,934 ครั้ง
รู้จักเลือก...รู้จักเลี่ยง ไม่เสี่ยงเป็นความดันโลหิตสูง
รู้จักเลือก...รู้จักเลี่ยง ไม่เสี่ยงเป็นความดันโลหิตสูง
เปิดอ่าน 11,340 ครั้ง
ทางรอดประเทศไทย : เปลี่ยนระบบการเรียนรู้
ทางรอดประเทศไทย : เปลี่ยนระบบการเรียนรู้
เปิดอ่าน 13,463 ครั้ง
ADT โรคใหม่มาแรงของผู้บริหารและมนุษย์ออฟฟิศ
ADT โรคใหม่มาแรงของผู้บริหารและมนุษย์ออฟฟิศ

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ